ผ่านไปแล้วกับการผ่าตัดเพื่อปิดเพดานของภูผา ถือเป็นการผ่าตัดครั้งที่ 2 และผ่าตัดเยอะกว่าครั้งแรก ใช้เวลามากกว่า และก่อนผ่าตัดก็คาดการณ์ว่าครั้งนี้จะเจ็บกว่าครั้งที่แล้ว และเป็นสิ่งที่ปะป๊ากับแม่ต้องเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมมากกว่าครั้งที่ผ่าเย็บริมฝีปาก และครั้งนี้มีการผ่าตัดเพื่อเจาะระบายน้ำในหูชั้นกลางด้วย ก่อนผ่าตัดปะป๊ากับแม่ก็ภาวนาว่าขออย่าให้ภูผาเป็นหวัดเลย เพราะว่าเลื่อนนัดหมอจากกำหนดเดิม 17 ก.ย. มาเป็นวันที่ 24 ก.ย. เนื่องจากแม่ติดภาระกิจที่บริษัท และช่วงนี้ฝนตกบ่อยเป็นช่วงที่กำลังเป็นหวัดเป็นไข้กันเลย แต่ปรากฎว่าประมาณ 3 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัดภูผามีอาการไอ แต่ไม่ได้เป็นไข้ มีน้ำมูกนิดหน่อย เลยพาไปหาคุณหมอเด็กที่รามาในวันเสาร์เพื่อให้คุณหมอเช็คว่าจะมีผลกับตอนผ่าตัดที่ใกล้จะถึงนี้มั๊ย คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นติดเชื้อไวรัส และอาการนั้นเป็นไม่มาก ไม่น่าจะมีผลกับการผ่าตัด ให้ลองสังเกตอาการดูต่อไปว่าจะเป็นเยอะขึ้นมั๊ย ซึ่งปะป๊ากับแม่ก็เฝ้าดูอาการ ซึ่งก่อนหน้าที่จะผ่าตัดนั้นภูผาก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ไม่ไอและมีน้ำมูก และไม่มีไข้ ซึ่งปะป๊ากับแม่เพิ่งจะเข้าใจแจ่มแจ้งกันตอนที่ผ่าตัดภูผาเสร็จแล้วว่าทำไมหมอถึงห้ามไม่ให้เป็นหวัด มีไข้ มีน้ำมูก ตอนช่วงผ่าตัด เดี๋ยวปะป๊ากับแม่จะเล่าให้ฟังต่อไป
ปะป๊ากับแม่พาภูผาเข้านอนโรงพยาบาลหนึ่งคืนก่อนการผ่าตัด ภูผาก็คลานและเดินเล่นเตาะแตะตามประสาภูผา ร่าเริง ก็เดินเข้าออกห้องพักดูโน่น ดูนี่ โดยน่าจะไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะถึงวันผ่าตัดและคงจะอารมณ์คนละอย่างกับวันนี้ แม่เปลี่ยนชุดของภูผาเป็นชุดโรงพยาบาล ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งแรกตอนภูผาอายุ 3 เดือนที่เป็นเสื้อผูกด้านหลังเหมือนเด็กทารก แต่ว่าคราวนี้เป็นเสื้อที่มีแขนและผูกเชือกด้านข้าง ซึ่งค่อนข้างผูกยากอยู่เหมือนกัน และใส่เป็นกางเกงแบบรูดไม่มียางยืด คุณพยาบาลมาชั่งน้ำหนักภูผา ปรากฏว่าน้ำหนัก 8 กิโลกรัมกว่านิด ๆ ไม่ถึงขีด !!! เกือบไม่ผ่านเกณฑ์คุณหมอแล้วไหมหล่ะภูผา ก็เราเล่นมาเบื่ออาหารตอนก่อนจะผ่าตัดเนี่ย ไม่ค่อยจะกิน
คุณพยาบาลวัดไข้ให้กับภูผาเป็นระยะ ซึ่งภูผาไม่มีไข้อะไร แข็งแรงดี คราวนี้ภูผาได้ห้องแรกสุดอยู่หน้าเคาน์เตอร์พยาบาลเลย พยาบาลถามปะป๊าว่าจะรับข้าวของโรงพยาบาลมั๊ยตอนเย็น ปะป๊าเลยไปถามยาย ยายบอกว่าให้เอา ซึ่งก็ดีแล้วหล่ะที่ให้ภูผากินข้าวโรงพยาบาล เป็นโจ๊กหมู เพราะว่าภูผากินได้เยอะมาก สงสัยอาหารโรงพยาบาลจะอร่อยถูกปากภูผาจริง ๆ ปะป๊ากับแม่ยังว่ามันอร่อยเลย แสดงว่าที่ภูผาเบื่ออาหารน่ะเป็นเพราะว่าภูผาน่าจะเบื่อรสชาติมากกว่า
คืนนั้นภูผาก็นอนบนเตียงกับแม่ และตั้งปลุกตอนตี่ 4 เพราะว่าต้องงดนมและอาหารตอนตี 5 ตอนประมาณก่อนตี 4 ภูผากินนมไปประมาณ 2 ออนซ์ และหลังจากนั้นประมาณตี 4 ครึ่งอีก 2 ออนซ์ แม่พยายามให้ภูผากินนมเป็นแบบแก้วหัดดื่ม และกินจากแก้วเลย เพราะว่าหลังจากนี้ภูผาจะไม่ได้กินนมจากจุกนมอีกแล้ว ซึ่งภูผาก็ไม่ค่อยจะกินนมก็ห่วงเล่นอย่างเดียวเลย กลัวภูผาจะหิวก่อน 9 โมงจังเลยเนี่ย
ประมาณ 8 โมงกว่า ก็มีพยาบาลจากห้องผ่าตัดมารับไปห้องผ่าตัด แม่นั่งรถเข็นและอุ้มภูผาไปห้องผ่าตัดซึ่งอยู่ชั้น 5 แม่ก็เข้าไปเปลี่ยนชุดและพาภูผาเข้าไปในห้องผ่าตัด ระหว่างที่รอคุณหมอภูผาก็หลับไปครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ พอภูผาตื่นก็เกือบ 9 โมงได้ คุณหมอก็เรียกเข้าไปในห้องผ่าตัดเพื่อจะให้ภูผาดมยาสลบโดยให้ภูผานอนบนเตียง แล้วพยาบาลก็จับภูผาเพื่อเตรียมวางยา และเอาที่ครอบจมูกมาใส่ ภูผาก็มองหน้าแม่และร้องไห้เหมือนจะไม่ยอม จากนั้นภูผาก็เหมือนกำลังจะเคลิ้ม ๆ แล้ว คุณหมอก็ให้แม่ออกมาก่อน
ภูผาออกจากห้องผ่าตัดประมาณเที่ยงกว่า แต่ป๊ากับแม่มารอหน้าห้องผ่าตัดกันตั้งแต่ สิบโมงกว่า พยาบาลเรียกให้แม่ไปเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะไปรับภูผา แม่ก็เอานมที่ชงเข้าไปด้วยเพราะว่าคราวที่แล้วต้องรีบมาเอานมให้ภูผาเพราะเหมือนกับภูผาจะหิวนม ส่วนยายตามหลังมาตอนที่แม่เข้าไปแล้ว
แม่เข้าไปในห้องผ่าตัดเจอพยาบาล ภูผาก็นอนอยู่บนเตียง พยาบาลบอกว่านมที่เอามากินไม่ได้หรอกเดี๋ยวอ๊วก พยาบาลบอกว่าก่อนหน้านี้ภูผาตื่นมาแล้วร้องไห้มาก ก็เลยฉีดยาแก้ปวดให้ แม่ก็เลยไปเดินดูภูผาที่เตียง ตอนนั้นภูผานอนหลับอยู่แล้วมีต่อท่อออกซิเจนที่นำมาวางไว้ข้างจมูก แม่ก็เลยเข้าไปเรียกภูผาว่า “ภูผาครับ คุณแม่มาแล้วนะครับ คุณแม่ยืนอยู่ข้าง ๆ ภูผานะ” ลูบหัวและหอมภูผา ภูผาก็เขยิบหัวในขณะที่หลับตาอยู่ แล้วแม่ก็พูดเหมือนเดิมแล้วก็ลูบหัว แม่เห็นน้ำตาภูผาไหลออกมา แม่เลยร้องไห้ออกมา แต่ว่าก็ต้องกลั้นเอาไว้ไม่ให้ออกมามาก แม่คิดว่าภูผายังเข้มแข็งเลย เราก็ต้องเข้มแข็งเหมือนกัน แม่นั่งมองภูผาและจับมืออยู่ข้างๆตรงนั้น
สักพักคุณหมอก็มา หมอบอกว่าหมอทำให้เรียบร้อยเลย มีกล้ามเนื้อตรงด้านหน้าที่เหมือนจะดึงรั้ง คุณหมอก็จัดการให้เรียบร้อยแล้วนะ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นกล้ามเนื้อตรงช่วงด้านในริมฝีปากบน แม่ถามคุณหมอว่าจะเจ็บกี่วัน คุณหมอบอกว่าประมาณ 3 วัน ห้ามกินนมจากขวด และใส่เฝือกที่แขนให้ใส่ประมาณ 5-7 วัน และคุณหมอถามว่าภูผาเอามือเข้าไปมั๊ยโดยปกติ แม่เลยบอกว่าปกติไม่อมนิ้วหรือเอามือเข้าปากอยู่แล้ว คุณหมอก็บอกว่าถ้าอย่างนั้น 5 วันก็น่าจะได้ ห้ามกินนมจากขวดนม ให้ใช้ไซริงค์แทน หรือกินนมจากแก้วได้ แต่หลังจาก 7 วันอาจจะเลิกขวดนมไปเลย หรือว่ากลับมากินใหม่ก็ได้ ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาจจะมีน้ำมูกหรือน้ำลายเป็นเลือดออกมาบ้างนะ
หลังจากนั้นพอสักพัก ภูผาก็ลืมตาขึ้นมามองหน้าแม่แล้วเหมือนจะอ๊วก แม่เลยเรียกพยาบาล บอกว่าภูผาเหมือนจะอ๊วก พยาบาลก็ยกภูผาขึ้น ตอนนั้นภูผาอ๊วกออกมาเป็นเลือด พยาบาลบอกว่ามันเป็นเลือดที่ค้างอยู่ตอนผ่าตัด แม่ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมาก เพราะว่าคุณหมอได้บอกไว้ก่อนบ้างแล้ว พยาบาลก็เหมือนเอาที่ช่วยดูดมาดูดออกให้ แล้วก็เตรียมย้ายภูผาไปห้องพักฟื้น แม่นึกว่าจะได้นั่งเก้าอี้เหมือนคราวที่แล้ว แต่ว่าคราวนี้เข็นเป็นเตียงเลย แม่ก็เลยออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้า
สักครึ่งชั่วโมงผ่านไป ปะป๊าเริ่มได้ยินเสียงร้องไห้แล้ว ปะป๊ากับยายคิดว่าต้องเป็นภูผาแน่ ๆ เลย แล้วภูผาก็โดนเข็นออกจากห้องผ่าตัด แม่ออกมาเปลี่ยนชุดแล้วก็วิ่งตามเข้าไปใหม่เพื่อจะออกไปประตูอีกด้านหนึ่งเพื่อขึ้นลิฟต์ไปด้านบน ปะป๊ากับยายรีบเดินไปตรงลิฟต์นั้น ภูผานอนอยู่บนที่นอนรถเข็นของผู้ใหญ่ ตัวภูผาเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับเตียงนั้น ปะป๊าเห็นภูผาร้องไห้แล้วปะป๊าก็จะร้องไห้ตาม แต่ก็กลั้นไว้เพราะว่าคนเยอะ ภูผาร้องไห้ใหญ่เลย สงสัยคงจะเจ็บ พอปะป๊าหรือแม่เรียกก็จะลืมตามาดูแล้วก็จะร้องใหม่ หน้าตาภูผาก็เหมือนจะบวม ๆ นิด ๆ และมีสายน้ำเกลือเจาะเข้าทางขา พอถึงห้องภูผาแหวะเลือดออกมาอีกครั้ง หลังจากที่หลังจากที่ฟื้นจากที่ห้องผ่าตัดแหวะออกมารอบนึง เพราะว่ามีเลือดที่ค้างอยู่ตอนช่วงที่หมอผ่าตัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ หมอบอกว่าช่วงแรกก็จะมีน้ำมูกหรือน้ำลายที่เป็นเหมือนมีเลือดปนออกมา
ภูผาร้องให้แม่อุ้มอย่างเดียวเลย คนอื่นจะอุ้มก็จะร้องไห้หาแม่ให้แม่อุ้ม วันนั้นทั้งวันก็ต้องอยู่กับแม่และยังคงสลึมสลือเพราะฤทธิ์ของยาแม่ก็ต้องอุ้มเอาไว้และนอนบนตัวแม่ตลอดเลย เพราะว่าปล่อยลงนอนที่เตียงไม่ได้เลย ภูผาก็จะร้องให้แม่อุ้ม พยาบาลบอกว่าฉีดยาแก้ปวดไปตอนที่ตอนพักฟื้นจากห้องผ่าตัด ซึ่งถ้าปวดอีกก็อาจจะต้องให้ยาแก้ปวด แต่หลังจากนั้นภูผาก็ไม่ได้ร้องไห้เหมือนกับตอนที่ผ่าตัดเย็บริมฝีปากที่ต้องโอ๋และกอดเอาไว้แน่น ๆ คราวนี้ภูผาจะร้องออกแนวโยเยเสียมากกว่า ซึ่งก็ไม่ได้คิดว่าภูผาจะปวดอะไรมาก แต่สังเกตที่ปากภูผา เหมือนลิ้นจะกระดกนิด ๆ และดูลิ้นแข็ง ๆ
ภูผานอนไปได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาตอนเย็น งอแงบ้างแต่ว่าไม่มาก และปากเหมือนจะดีขึ้น เหมือนว่าปากจะเริ่มหายชาและลิ้นก็ขยับได้บ้างแล้ว และอารมณ์ก็เริ่มดีขึ้นมียิ้มมุมปากเล็ก ๆ ได้
เรื่องกินนมภูผาไม่ยอมกินนมเลย ไม่ว่าจะใช้ไซริงค์ที่มีสายยางต่อหรือว่าจะใช้ขวดนมพิเศษเหมือนกับตอนที่ผ่าตัดครั้งแรก หรือกระทั่งให้กินจากแก้ว ก็ปฏิเสธหมด ไม่ยอมกิน ไม่เหมือนกับครั้งแรกที่ยังพอบังคับให้กินได้บ้าง เพราะว่าตอนนั้นภูผาตัวยังเล็ก ไม่ดิ้นมาก และก็ยังกินนมอย่างเดียวเป็นอาหารหลัก และอดทนไม่กินนมไม่ได้เหมือนกับตอนนี้ ก็ไม่เป็นไรเพราะว่ามีน้ำเกลืออยู่ค่อยให้กินนมพรุ่งนี้ก็แล้วกัน
ช่วงกลางคืน ภูผานอนแบบกระสับกระส่าย เพราะด้วยน้ำมูกที่รู้สึกว่ามันจะเยอะมากเลย ทำให้เวลาภูผานอนก็จะนอนหลับได้ไม่ค่อยสนิท เหมือนกรนมีเสียงดัง มีสะดุ้ง แล้วก็พลิกตัวไปมา ปะป๊ากับแม่เลยถึงได้เข้าใจว่าทำไมถึงถ้าเป็นหวัดแล้วถึงไม่ควรให้ผ่าตัด เพราะว่าขนาดภูผาไม่เป็นหวัดยังขนาดนี้ แล้วถ้าภูผาเป็นหวัดมันคงแย่กว่านี้มาก
ตอนหัวค่ำภูผาไข้ขึ้น แม่ลองให้ป๊าจับดูว่าภูผาตัวร้อนมั๊ย ป๊าก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าสงสัยแม่จะอุ้มภูผามากทำให้รู้สึกว่าตัวภูผาร้อนและร้องโยเย สักพักแม่ให้พยาบาลมาวัดไข้ตอนประมาณ 2 ทุ่ม ก็ปรากฎว่าภูผาตัวร้อน ประมาณ 38 กว่าเกือบ 39 ภูผาเลยต้องกินยาลดไข้ พอกินยาลดไข้ ภูผาก็สงบลงบ้าง คงเป็นเพราะยาพาราเป็นทั้งยาลดไข้และแก้ปวด จึงทำให้ภูผารู้สึกสบายขึ้นและไข้ลดลง แต่ก็ไม่ได้หลับเหมือนปกติ ยังพลิกไปมาเพราะว่าน้ำมูกที่เยอะมาก จนแม่รู้สึกถึงแรงที่มันสั่นสะเทือนเวลาจับหลังภูผาตามจังหวะการหายใจ แม่เรียกป๊ามาจับป๊าก็รู้สึกได้เหมือนกัน จึงเรียกให้พยาบาลเข้าช่วยดู พยาบาลเลยเอาเครื่องวัดปริมาณออกซิเจนมาหนีบที่ขา เพื่อดูปริมาณออกซิเจนอยู่ในระดับปกติรึเปล่า คงกลัวว่าจะได้ออกซิเจนไม่พอ เพราะว่าหายใจไม่สะดวก แต่ว่าภูผาก็มีค่าที่ปกติ ถ้าจำไม่ผิดตัวเลขต้องสูงกว่า 95 หน่วยอะไรก็ไม่รู้สิ แต่ว่าพยาบาลฟังเสียงที่ปอดซึ่งก็ไม่เป็นอะไรปกติดี
พอตอนช่วงประมาณตี 2 ภูผาก็ยังไข้ขึ้นอีก เลยต้องให้กินพาราอีกรอบ การกินยาของภูผาก็ต้องบังคับให้กิน ใส่ไซริงค์แล้วก็กรอกเข้าปาก เพราะว่าภูผาไม่ยอมกินดี ๆ เลยหน่ะ ภูผายังหายใจเหมือนจะลำบากเหมือนเดิม ถึงแม้พยาบาลจะติดตามค่าออกซิเจนอยู่ แต่ว่าพยาบาลก็ถามแม่ว่าอยากให้พยาบาลช่วยดูดน้ำมูกให้เอามั๊ย แม่ก็เลยให้พยาบาลดูดให้ พยาบาลเอาเครื่องดูดเสียบปลั๊กมีสายยาว ๆ และมีพยาบาลมาช่วยกันจับภูผา ภูผาร้องเอามากเลย ภูผาดูท่าทางกลัวเอามาก ๆ พยาบาลใช้สายดูด และมีน้ำเกลือช่วย เพื่อดูดน้ำมูกออกมาทั้ง 2 ข้าง ใช้เวลาไม่นาน หลังจากนั้น…ภูผาของเราก็กลัวพยาบาลขึ้นมาเลย ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยกลัวเลยนะ พอโดนแบบนี้เข้าไปเลยกลัวมาก พยาบาลจะมาวัดไข้หรือวัดความดันก็จะร้อง และไม่ค่อยยอมให้พยาบาลมาแตะตัวเลย ฮา
แต่หลังจากที่ดูดเอาน้ำมูกออกไป ภูผาก็นอนหลับสบายขึ้นเยอะ ได้จนถึงประมาณตี 5 ก็เป็นช่วงที่ภูผาตื่นพอดี และเหมือนจะดีขึ้นมากแล้ว แต่ว่าจะให้กินนมก็ยังไม่ยอมกินนะ ให้นั่งรถเข็นที่เตรียมมาจากบ้าน แล้วก็ชี้จะออกนอกห้อง ปะป๊ากับแม่ก็พอเดินไปดูข้างนอก ดูวิวตรงกระจกบ้าง ดูรูปบ้าง เดินพาไปดูแถวห้องพักเด็กแรกเกิดบ้าง แล้วก็กลับมาดูโปสเตอร์ตรงหน้าห้องข้างเคาน์เตอร์พยาบาลบ้าง ดูหนังสือนิทานตรงนั้น และก็เล่นลูกบอล ทำวนกันอยู่อย่างนี้ตอนช่วงที่พักอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะว่าภูผาไม่ค่อยชอบอยู่ในห้อง และร้องจะออกข้างนอกตลอดเลย แต่ว่ามันก็คงทำให้ภูผาไม่เครียดและอารมณ์ดีขึ้น และภูผาก็เริ่มยิ้มและหัวเราะได้แล้ว
ตอนเช้าคุณหมอก็เข้ามาดูภูผาแล้วก็ดูผลด้านใน หมอบอกว่าหมอเย็บแผลเอาไว้เยอะเลยและก็แม่ดูด้านใน บอกว่ามันเป็นปมที่หมอเย็บให้ หมอเย็บให้อย่างดี แต่ว่าถ้าเกิดว่าแผลมันแยกก็ไม่จำเป็นต้องผ่าใหม่ เดี๋ยวมันก็จะสมานกันเอง เพราะว่าเด็กอาจจะเอาลิ้นไปดุนตรงปมหรือตรงแผลได้ หมอบอกว่าเคสของภูผาผ่าไม่ยาก และครั้งนี้เหมือนเป็นการผ่าใหญ่กว่าครั้งแรกนะ แต่ดูภูผาเหมือนตัวใหญ่ขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว หมอถามว่าภูผาหนักเท่าไร เลยบอกว่า 8 กิโลกรัม แม่กับป๊าก็เลยคิดว่าหรือเป็นเพราะว่าภูผาหัวใหญ่ (ฮา) เลยทำให้ผ่าง่ายขึ้น และปะป๊าถามหมอเรื่องลิ้นเหมือนว่าลิ้นภูผาจะแข็ง ๆ ที่สังเกตได้เมื่อวาน คุณหมอเลยบอกว่าเป็นปกติเพราะว่าตอนผ่าตัดคุณหมอมีใช้อุปกรณ์เพื่อให้อ้าปาก และมีการกดลิ้นลงมาระหว่างที่ผ่าตัด 3 ชั่วโมง ซึ่งมันก็น่าจะทำให้ภูผาเจ็บลิ้นมากกว่าเจ็บแผลอีกด้วย ปะป๊ากับแม่ก็เลยเข้าใจละ
วันนั้นทั้งวันภูผายังกินนมไม่ค่อยได้ เริ่มกินได้บ้างก็ตอนเย็นแล้ว ก็ภาวนาให้ภูผากินนมได้เยอะ ๆ เพราะว่าจะได้ถอดสายน้ำเกลือสักที เวลาภูผาจะไปไหนก็ต้องหอบหิ้วทั้งแท่นน้ำเกลือและรถเข็นภูผา จะคลาน หรือจะเดินก็ทำไมได้ ตอนกลางคืนก็พยายามให้กินนมอีกโดยมีพยาบาลคอยจดบันทึกว่ากินนมไปได้เท่าไรแล้ว ต้องหลอกล่อภูผาให้กินนมกันสุด ๆ
หัวค่ำตอนนอนภูผาเริ่มเป็นไข้ต่ำอีกแล้ว เหมือนเมื่อวาน กินยาพาราน้ำของเด็กแล้วก็หาย เสร็จแล้วก็เป็นอีกทีตอนตี 2 เหมือนกับเมื่อวานเปี๊ยบ แต่ว่าคราวนี้ภูผานอนบนเตียงได้แล้ว ไม่ต้องนอนบนตัวแม่เหมือนเมื่อวาน อาการกรนและเสียงหายใจครืดคราดเริ่มลดลงกว่าเมื่อวานแต่ก็ยังถือว่ายังเยอะอยู่
เช้าก็ตื่นประมาณตี 5 วันนี้เป็นวันที่เป็นกำหนดที่ภูผาจะต้องออกจากโรงพยาบาล แต่ป๊ากับแม่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะออกจากโรงพยาบาลตามกำหนดได้มั๊ย เพราะว่ายังให้น้ำเกลืออยู่ เพราะว่าถ้าเป็นครั้งที่แล้วถอดสายน้ำเกลือตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว แต่ว่าคราวนี้ยังไม่ถอดเพราะว่ากินนมได้ไม่เยอะ แต่ว่าตอนเช้าวันนี้ภูผาก็เริ่มกลับมากินนมได้เยอะเลย อารมณ์ดี คึกคักเหมือนกับภูผาปกติ ค่อนข้างปกติแล้วหล่ะนะ และหัวหน้าพยาบาลก็เดินมาทักว่า วันนี้น่าจะได้กลับบ้านแล้ว ในใจปะป๊าดีใจสุด ๆ ได้กลับบ้านแล้ว เย้ ๆ ๆ หมอมาดูภูผาและบอกว่าโอเค กลับบ้านได้แล้ว และยังให้ใส่เฝือกจนกว่าจะถึงวันนัดมาดูแผลวันพุธ เลยถามเรื่องกินข้าว หมอบอกว่ากินได้แต่ว่าต้องเป็นแบบเหลว ๆ เลย คล้าย ๆ กับซีรีแลค แบบนั้นถึงจะกินได้
สักพักก่อนเที่ยงพยาบาลก็มาถอดสายน้ำเกลือให้ และแม่ก็ไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายกับการเงินและรอรับยากลับบ้าน และที่คุณหมอบอกว่าเอากล้ามเนื้อที่รั้ง ๆ ออกให้ด้วย ปะป๊าก็ว่ามันดูดีขึ้นนะ เมื่อมองตรงริมฝีปากตรงเนื้อด้านบนระหว่างจมูกกับริมฝีปาก ดูสวยขึ้น ตรงขึ้น
สรุปว่าคราวนี้นั้นภูผานั้นต่างจากคราวที่แล้ว ไม่ร้องไห้มากเท่ากับคราวที่แล้วแต่ว่าร้องโยเยและไม่สบายตัวเพราะว่าเป็นไข้และมีน้ำมูกมากเวลานอน ปะป๊าก็เลยคิดไปเองว่าภูผาคงสามารถที่จะทนความเจ็บปวดได้ในระดับหนึ่งไม่เหมือนกับตอนนั้นที่อายุ 3-4 เดือน ส่วนเรื่องใส่เฝือกก็ไม่ได้ซีเรียสเหมือนกับคราวที่แล้วที่เป็นช่วงเอามือเข้าปากพอดีเพราะว่าภูผาไม่ติดอมนิ้มหรือเอามือเข้าปาก กินนมได้ตอนช่วงหลัง ๆ แล้วและบังคับให้กินยาก แต่ว่าก็ดูฟื้นตัวเร็วกว่าครั้งแรก
ตอนช่วงที่อยู่บ้านก็กินอาหารเหลวของเด็ก ซึ่งภูผากินแล้วไม่ออกจมูกเหมือนกับแต่ก่อนแล้วนะ ดีใจังเลย และกินได้เยอะเลยหล่ะ มื้อละประมาณ 2 ถ้วยของที่เคยกินเลย และก็กินนมจากแก้วเหมือนของผู้ใหญ่ ใส่ฝาให้กินเหมือนตอนที่ยายเคยให้กินน้ำก่อนผ่าตัด และก็กินจากขวดนมแบบที่ถอดฝาและจุกนมออก ค่อย ๆ ให้ภูผากิน ภูผาก็ได้ดีและเยอะเลย ดีที่ว่าคุณหมอบอกให้หัดกินจากแก้วได้แล้ว ซึ่งก่อนหน้าผ่าตัดภูผาก็ยังกินแก้วสลับกับกินจากขวดนมและมีจุกอยู่ แต่ว่าถ้าเลิกกินจากขวดก่อนหน้าผ่าตัดได้ก็จะดี เพราะว่าหลังผ่าตัดยังไงก็ให้เลิกกินจากขวดนมอยู่แล้ว และถึงตอนนี้ภูผาก็ไม่เคยกินนมจากจุกอีกเลย ให้เลยกินแบบนั้นไปเลย
ตอนไปตรวจดูแผลกับคุณหมอตามนัด คุณหมอก็บอกว่าแผลโอเคดีนะ ไม่รั่วอะไร ส่วนไหมเป็นไหมละลาย มันจะค่อย ๆ ละลายจากข้างในมาจากข้างนอก ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน และห้ามกินของแข็งเช่น มะม่วง ฝรั่ง แต่ว่ากินข้าวและของอ่อน ๆ ได้แล้ว ส่วนอาการที่เวลานอนตอนกลางคืนหายใจเสียงดังเหมือนมีน้ำมูกหรือคล้าย ๆ เสียงกรนก็เริ่มหายไปแล้ว
สุดท้าย ขอบพระคุณอาจารย์หมอเฉลิมพงษ์ ฉัตรดอกไม้ไพร มาก ๆ เลยนะครับ สำหรับการผ่าตัดตกแต่งศัลยกรรมให้กับภูผาเป็นอย่างดีเลยตั้งแต่ครั้งแรกรวมถึงครั้งนี้ด้วย จำได้ว่าจากตอนแรกเกิดที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีที่ภูผาเป็นแบบนั้น กับตอนนี้ที่ภูผาดูมีความสุข ร่าเริงและใช้ชีวิตได้เหมือนกับเด็ก ๆ ทั่วไป ขอบพระคุณมาก ๆ อีกครั้งนะครับ
ครอบครัวน้องภูผา
พ่อน้องพัฒน
ตุลาคม 18, 2013 at 1:07 pm
ยินดีด้วยครับน้องภูผา 🙂 อยากถามคุณแม่ว่า ตอนก่อนผ่าเพดาน เวลาป้อนอาหารแล้วออกจมูก ต้องทำอย่างไรครับ ลูกชายผมพึ่งผ่าปิดปากหลังน้องภูผา 1 อาทิตย์ และตอนนี้แผลแห้งดีแล้ว และกำลังจะให้ลองอาหารเสริม ลองป้อนน้ำข้าวแล้ว มันเหมือนจะขึ้นไปที่จมูก อยากขอคำแนะนำหน่อยครับ
mpksmile
ตุลาคม 18, 2013 at 1:15 pm
เป็นเรื่องปกติครับ ภูผาก็เป็นเหมือนกันครับ ตอนช่วงก่อนผ่าตัดเพดานเวลากินข้าวก็ออกจมูกเหมือนกันครับ เพราะว่าเพดานยังโหว่อยู่น่ะครับ กินข้าวแล้วมันก็จะมีบางส่วนที่ออกไปทางช่องที่ยังโหว่ตรงเพดาน แต่ถ้าผ่าตัดเย็บเพดานแล้วก็จะหายครับ ตอนนี้ภูผาก็กินข้าวไม่ออกจมูกแล้วครับ
ตีรณา (แม่น้องไทม์)
มกราคม 2, 2016 at 9:59 pm
สวัสดีค่ะ…คุณพ่อคุณแม่น้องภูผา ตอนนี้ภูผาคงโตเป็นหนุ่มน้อยแล้ว พอดีเพิ่งอ่านเจอบทความและเป็นประโยชน์กับเรามากค่ะ เลยอยากขอคำปรึกษาบ้างค่ะ น้องไทม์เป็นเพดานโหว่อย่างเดียวตอนนี้ 4 เดือนกว่าแล้วค่ะ มีแผนจะทำเพดานเทียมตอน 6 เดือน…น้องภูผาหลังจากที่เย็บปิดปากแล้วไม่ได้ใส่เพดานเทียมต่อหรอค่ะ เห็นในบทความว่าเวลาน้องภูผาทานอาหารเสริมแล้วออกจมูกด้วย แล้วเมื่อออกจมูกอย่างนี้มีวิธีทำความสะอาดอย่างไรค่ะ
mpksmile
มกราคม 3, 2016 at 2:54 am
ไม่ได้ใส่เพดานเทียมแล้วครับ หลังจากเย็บริมฝีปาก จำได้ว่าตอนนั้นก็ไม่ได้ใช้อะไรทำความสะอาดเป็นพิเศษนะครับ เช็ดแค่ภายนอกเฉย ๆ ครับ
เจน
พฤศจิกายน 19, 2013 at 3:36 am
สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่น้องภูผา ยินดีด้วยนะค๊ะ ที่น้องหายแล้ว เจนเองก้อมีลูกเป็นปากแหว่ง เพดานโหว่ เหมือนกันค่ะ ชื่อน้องชาบู อายุ 5 เดือนแล้ว จะได้คิวทำปาก เดือน ธค. นี้ อยากรู้ว่า จะต้องเตรียมตัวไงบ้างค๊ะ แล้วน้องเค้าจะดูดนมได้ไม๊ อ่อ น้องชาบูแหว่ง 2 ข้างเลย ตั้งแต่คลอด หมอก้อให้ใส่เพดานเทียมตลอด เลยไม่เคยลองให้เค้าดูดนมตอนไม่ใส่เพดาน
mpksmile
พฤศจิกายน 19, 2013 at 5:56 am
สวัสดีครับ คุณเจน
ขอบคุณมากครับ น้องภูผายังคงต้องรักษาเรื่องฟัน การพูด และผ่าตัดตกแต่งอีกครับ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็ดูแลไม่ให้น้องเป็นหวัดครับแต่ถ้าเป็นหวัดจริง ๆ ก็คงต้องเลื่อนนัดคุณหมอครับ การกินนมตอนช่วงผ่าตัดก็จะป้อนนมโดยใช้ไซริงค์ครับ หรืออาจจะเป็นขวดนมพิเศษครับ ลองเข้าไปอ่านบล๊อคเก่า ๆ ดูนะครับ อันที่ผมแนบให้คือเรื่อง ตอนผ่าตัดริมฝีปากครับ ถ้าสงสัยอะไรก็สอบถามมาได้นะครับ สู้ ๆ นะครับน้องชาบูและคุณพ่อคุณแม่น้องชาบู
พ่อน้องพัฒน
พฤศจิกายน 19, 2013 at 7:46 am
ช่วงนี้ให้พยายามกินให้เยอะครับ เพราะผ่าตัดเสร็จช่วงอาทิตย์แรกจะกินได้น้อยมาก ลูกชายผมก็ปากแหว่ง 2 ข้างเช่นกัน เป็นกำลังใจให้ครับ
เจน
พฤศจิกายน 24, 2013 at 2:08 am
ขอบคุณมากนะีค๊ะ ตอนนี้ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ตื่นเต้นแล้วก็กังวลมากค่ะ แต่ที่กังวลอีกอย่างคือ วันที่ 28 พย. นี้ ทางโรงพยาบาลนัดน้องชาบูตรวจการได้ยิน แล้วต้องมีการให้ทานยานอนหลับด้วย และอีกไม่กี่วัน น้องก็จะต้องผ่าตัด มันจะมีผลอะไรไม๊ค๊ะ
สวัสดีค่ะ คุณพ่อน้องพัฒน์ ขอบคุณนะค๊ะ แล้วตอนนี้ น้องพัฒน์ อายุเท่าไรแล้วค๊ะ รักษาไปถึงไหนแล้ว
mpksmile
พฤศจิกายน 24, 2013 at 2:19 am
เข้าใจความรู้สึกตื่นเต้นครับ ส่วนเรื่องตรวจการได้ยินตอนภูผาตรวจไม่ได้กินยานอนหลับ แต่ว่าต้องกล่อมให้หลับ เพราะว่ามันใช้เวลาตรวจข้างนึงประมาณ 5 นาที ถ้าน้องไม่หลับจะตรวจลำบากครับ คิดว่าน่าจะไม่มีผลกับตอนผ่าตัดนะครับ แต่ถ้ากังวลก็ถามคุณหมอก็ได้ครับ สู้ ๆ นะครับ ^^
เจน
พฤศจิกายน 26, 2013 at 10:33 am
วันนี้ได้รับข่าวร้ายจาก โรงพยาบาล เค้าโทรมาเลื่อนนัดผ่าตัดอีกแล้วค่ะ คือว่าเจนรักษากับโรงพยาบาลศิริราชค่ะ แบบใช้บัตร30 บาท โดนเลื่อนนัดครั้งแรก ตอนเดือน ตค. ให้มาเป็น เดือน ธค. แต่วันนี้โทรมาเลื่อน บอกว่ายังไม่มีกำหนดเพราะคุณหมอไม่อยู่ เจนเลยรู้สึก เศร้าๆ นี่ถ้าเรามีเงินเยอะๆคงได้ทำไปละ เจนพอจะถามได้ไม๊ค๊ะว่า ค่าใช้จ่ายของน้งภูผา ตอนทำปากอยู่ที่ประมาณเท่าไร
เจน
พฤศจิกายน 26, 2013 at 10:37 am
ถ้าหากมันไม่เกินกำลังมากนัก ก้ออยากจะเสียเงินเอง แบบว่ารอจนน้องเค้าจะ 6 เดือนแล้ว ส่วนเจนเองก้อต้องกลับไปทำงาน ลามาตั้งแต่คลอดเลยค่ะ ก้อเลยอยากจะรบกวนถาม คุณพ่อ น้องภูผา แต่ถ้าบอกไม่ได้ก้อไม่เป็นไรนะค๊ะ
mpksmile
พฤศจิกายน 26, 2013 at 11:43 am
ตอบกลับเรื่องค่าใช้จ่ายไปทางเมลล์แล้วนะครับคุณเจน
พ่อน้องพัฒ
พฤศจิกายน 26, 2013 at 1:28 pm
เข้าใจความรู้สึกครับ ของผมก็อยากให้ลูกได้ผ่าตัดเร็วๆ แต่ต้องรอจน 6 เดือนครึ่ง พอดีคุณหมออีกท่านไม่อยู่ (ของผมต้องผ่าตัดสองที่ ใช้หมอสองคน) แต่ระบบที่รามาดีหน่อยตรงที่เราจะรู้กำหนดวันที่ค่อนข้างแน่นอน และเค้าจะให้ความสำคัญกับเด็กก่อน ดังนั้นเด็กจะได้กำหนดนัดที่ค่อนข้างเร็ว
ไม่แน่ใจว่าคุณเจนถามเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะอยากจะมาผ่าที่รามาหรือเปล่าครับ หรือจะลองมาปรึกษาหมอฟันที่รามาก่อนว่าทำได้ไหม คุณหมอฟันที่ดูแลน้องภูผาและน้องพัฒใจดีมากครับ ไปทำบัตรผู้ป่วยที่รามาตึกเก่าชั้น 1 และเข้าไปนัดหมอนันทนาที่แผนกทันตกรรม ใกล้ๆกับที่ทำบัตร ไปครั้งแรกไม่ต้องพาเด็กไปก็ได้ครับ เอาสูจิบัตรไปทำบัตรผู้ป่วย ได้บัตรแล้วเดินเขาไปที่เคาท์เตอร์พยาบาลแผนกทันตกรรมบอกกับพยาบาลว่าลูกมีปัญหาปากแหว่ง อยากจะนัดหมอนันทนา ถ้าคุณหมอไม่ยุ่งมากก็อาจได้คุยกับหมอก่อน แต่ถ้าคุณหมอยุ่ง ก็ได้นัด แล้วค่อยพาเด็กไปหาตามนัด แต่ผมไม่แน่ใจว่าเครื่องมือเพดานเทียมของรามากับศิริราชเหมือนกันหรือไม่ ถ้าไม่เหมือนกันก็อาจยุ่งยากที่จะเปลี่ยนแปลง
ผมไม่ได้ต้องการจะบอกว่ารามาดีกว่าศิริราชนะครับ แต่เข้าใจความรู้สึกคนเป็นพ่อแม่ และรู้สึกประทับใจคุณหมอที่รามาทุกคน ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดและภาพโรงพยาบาลรัฐจากลบเป็นบวกได้มาก
เจน
พฤศจิกายน 27, 2013 at 1:31 am
ขอบคุณมากนะค๊ะคุณพ่อน้องภูผา และ คุณพ่อน้องพัฒน์ ถ้ามีอะไรคืบหน้ายังไง จะมาเล่าให้ฟังนะค๊ะ
ทิพย์วรรณ ภูมิพันธ์
พฤศจิกายน 30, 2013 at 1:57 pm
ยินดีด้วยนะคะน้องภูผาหล่อมากค่ะ ดิฉ้นเองก็มีหลานชายที่เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่เหมือนกันค่ะ ดิฉันอ่านบล๊อกของน้องภูผาแล้วก็เข้าใจดีค่ะแต่อยากทราบค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้ง2ครั้งด้วยค่ะเพราะว่าดิฉันอยู่ต่างจังหวัดรายได้น้อยแต่ถ้าพอสู้ได้ดิฉันก็อยากให้หลานได้ผ่าช่วยกรุณาด้วย ขอบคุณค่ะ
mpksmile
พฤศจิกายน 30, 2013 at 4:32 pm
ขอบคุณครับ เรื่องค่าใช้จ่ายขออนุญาตตอบกลับทางเมลล์นะครับ
น้ำ
พฤศจิกายน 7, 2017 at 4:45 am
ขอทราบค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดปากและเพดานได้ไหมคะว่าครั้งละเท่าไหร่ แล้วตอนนี้น้องพูดได้ชัดไหม มีโรคอื่นๆเพิ่มอีกหรือป่าวคะ e-mail : honeyy_hn@hotmail.com
mpksmile
พฤศจิกายน 7, 2017 at 8:08 am
น้องพูดชัดดีครับ เดี๋ยวผมตอบเรื่องค่าใช้จ่ายทางเมลล์นะครับ
moonriya
มกราคม 9, 2014 at 9:57 am
ขอขอบคุณครอบครัวน้องภูผามาก ๆ เช่นกันค่ะ ขอให้ผลบุญจากการแชร์ข้อมูลนี้ส่งให้ครอบครัวของน้องภูผา จงพบเจอแต่ความสุข ความเจริญ นะคะ และอยากให้ข้อมูลเหล่านี้ยังอยู่ใน web ต่อไปเพื่อให้ครอบครัวอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกันได้ศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเจอในอนาคตค่ะ
mpksmile
มกราคม 9, 2014 at 1:31 pm
ขอบคุณมากๆๆครับคุณ moonriya เราตั้งใจแชร์ข้อมูลต่อไปเรื่อย ๆ ครับ ครอบครัวเราก็ดีใจมาก ๆ ที่มันเป็นประโยชน์กับครอบครัวอื่นครับ
moonriya
มกราคม 10, 2014 at 10:43 am
@ คุณพ่อน้องภูผา, จริง ๆ แล้วเป็น fan-club น้องภูผาตั้งแต่หลังคลอดเพียงไม่กี่วันและติดตามเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันค่ะ เพราะการค้นหาผ่านทาง Internet นั้นง่ายมาก keyword ที่คุณพ่อน้องภูผาใช้ครอบคลุมสำหรับการสืบค้นทาง Internet (SEO) เป็นประโยชน์มากจริง ๆ ค่ะ
ลูกสาวของ moonriya ก็เป็นเพดานโหว่เช่นเดียวกันค่ะ แต่โชคดีหน่อยเป็นเพียงเพดานโหว่เท่านั้น และก็โชคดีอีกเช่นกันที่คุณหมอเด็กที่ทำคลอดแนะนำการดูแลเด็กเบื้องต้นให้ตั้งแต่แรก และมีข้อมูลดี ๆ จาก blog ของน้องภูผาที่คอยแนะนำการดูแลไว้ดีมาก ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการดื่มนมและการกินอาหารเท่าใดนัก อีกทั้งใช้ขวดนมแบบพิเศษของ Medela และปัจจุบันลูกสาวอายุประมาณ 9 เดือนแล้วค่ะ ยิ่งโตขึ้น เขาก็แข็งแรงขึ้น และไม่มีออกจมูกแล้วค่ะ
@ คุณเจน + @ คุณทิพย์วรรณ, คุณหมอเฉลิมพงษ์ เป็นคุณหมอท่านเดียวกันที่รักษาน้องภูผาค่ะ ท่านบริการดีมาก เอาใจใส่ดูแลอย่างดี ให้ความสำคัญกับผู้ป่วย และมีทีมงานที่เข้มแข็งกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ ‘ศิริราช เนื่องจากช่วงแรกเกิด ได้พาลูกสาวไปพบแพทย์ที่ศิริราช ปรากฎว่า ตลอดเวลา ตั้งแต่ แผนกศัลยศาสตร์ ไปจนกระทั้ง แผนกหูฯ ไม่เคยได้พบแพทย์เฉพาะทางเลย ได้พบเฉพาะ Resident หรือ คุณหมอประจำบ้าน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า นักศึกษาแพทย์ใกล้จบ ปี 5-6 ค่ะ ซึ่งไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับเราได้ และแผนกหูนัดตรวจ 2 ครั้ง เลื่อนทั้งสองครั้งแบบไม่รู้ตัว รู้อีกทีว่าถูกเืลื่อนตอนที่เราต้องเดินทางไปตามนัดแล้วค่ะ ไม่เคยได้พบคุณหมอเฉพาะทางด้านหูเลย รู้สึกว่าภาระกิจของคุณหมอที่นี่เยอะมาก ไม่สะดวกพบคนไข้ทั้งที่ได้ทำนัดไว้แล้ว และไม่เคยแจ้งเลื่อนนัดลวงหน้า การบริการถือว่ามีมาตรฐานเดียวค่ะไม่ว่าจะใช้บัตร 30 บาท หรือ ชำระค่ารักษาด้วยตนเองก็ตาม สบายใจได้ไม่มีบริการเหลื่อมล้ำแต่อย่างใด ยกเว้นคิวของผู้ชำระเงินเองจะเร็วกว่าหน่อย ยกตัวอย่างเช่น แผนกศัลยฯ บอกว่าถ้าอยู่ในโครงการ (ฟรี) คิวจะหลังจากเดือน เม.ย. 57 (ตอนสอบถามประมาณ ส.ค.56) แต่หากชำระเอง ศิริราชนัดเลย 13 ม.ค. 57 (แต่ moonriya ได้ยกเลิกไปก่อนถึงเวลานัดเพราะเปลี่ยนไปพบคุณหมอเฉลิมพงษ์ ก่อนค่ะ) ซึ่งแผนกศัลฯ ของศิริราชได้ประเมินค่าผ่าตัดคร่าว ๆ มา 25,000-30,000 บาท ยังไม่รวมค่าห้องพัก ไม่รวมค่ายา และไม่รวมค่าวิสัญญีแพทย์ ซึ่งเรายินดีจ่ายโดยไม่ขัดข้องใด ๆ แต่การบริการไม่ประทับใจเลย ถึงขั้นถามแผนกศัลฯ ว่า คุณหมอมีพิเศษที่ รพ.อื่นอีกใหม เรายินดีที่จะไปพบคุณหมอทั้งหมดที่เกี่ยวข้องตาม รพ.เอกชนต่าง ๆ ที่แต่ละท่านประจำอยู่หากท่านไม่สะดวกให้พบที่ศิริราชฯ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใด ๆ และไม่มีคำตอบใด ๆ ให้เราเลย
อีกทั้งเพื่อนเรียนร่วมรุ่น เขาก็มีลูกที่วัยใกล้เคียงกันกับลูกสาวของ moonriya ที่ได้รักษากับคุณหมอเฉลิมพงษ์ไปก่อนหน้าโดยได้รับการผ่าตัดไปเมื่อ 20 พ.ย. 56 แนะนำมา เมื่อมี ref. ที่น่าเชื่อถือได้ถึง 2 แหล่ง คือ น้องภูผา และ เพื่อน ดังนั้นจึงตัดสินใจเปลี่ยนทันที และสิ้นเดือน ม.ค. 57 นี้ ก็จะไปพบคุณหมอหู เพื่อตรวจคัดกรองค่ะ และมีนัดผ่าตัดประมาณสิ้นเดือน พ.ค. 57 ค่ะ
ทั้งหมดเกี่ยวกับศิริราช อาจจะเป็นข้อมูลด้าน Negative นิดนึงนะคะ เพราะไปที่ศิริราชไม่ต่ำกว่า 6 ครั้งค่ะ โดยต้องเผชิญกับสถานที่ไม่เพียงพอต่อการรับรองคนไข้ การบริหารจัดการคิวไม่ได้มาตรฐาน บรรยากาศรอบ ๆ อึมครึม พยาบาลผู้ให้บริการด้อยคุณภาพขาด service mind และที่สำคัญ ได้พบคุณหมอศัลย์ฯ ตกแต่ง เพียงครั้งเดียวตอนที่คุณหมอต้องการทำนัดผ่าตัด ไม่ได้รับคำแนะนำการดูแลเด็กหลังผ่าตัด ไม่มีเอกสารใด ๆ เป็นข้อแนะนำดีแบบเป็นทางการ ๆ ฯลฯ แต่ที่ไปครั้งแรกเพราะ มีเพื่อนเป็นพยาบาลอยู่ที่นั่นค่ะ แต่คนละแผนกฯ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังสับสนกับการบริการของศิริราช ขอแนะนำว่า ไม่ต้องลังเลใจที่จะเปลี่ยนสถานที่ค่ะ ทำได้ทันที ดังขั้นตอนที่ @ คุณพ่อน้องพัฒน์ แนะนำทุกอย่างค่ะ
mpksmile
มกราคม 12, 2014 at 1:58 pm
ขอบคุณคุณ moonriya ที่แชร์ประสบการณ์กันนะครับ
โดยส่วนตัวครอบครัวน้องภูผาไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของโรงพยาบาลนะครับ เพราะคิดว่ายังไงก็เป็นโรงเรียนแพทย์เหมือน ๆ กัน แต่ที่ตอนแรกติดต่อที่รามาก่อนเลยเพราะว่าคุ้นเคยที่นี่มากกว่าตั้งแต่สมัยเรียน และจับพลัดจับผลูมาได้มารักษาที่คลินิกพิเศษ
ครอบครัวเราพยายามเขียนแชร์ในบล๊อกนี้ให้เป็นในเชิงประสบการณ์ที่เจอแบบเล่าเรื่องและให้เป็นกลาง ๆ ที่คิดว่าให้ครอบครัวอื่น ๆ ได้อ่านเพลิน ๆ แต่ก็ได้ประโยชน์ในการดูแลลูก ๆ ที่เป็นเหมือนกันกับภูผาไม่ว่าจะรักษาที่โรงพยาบาลไหนก็ตามครับ
moonriya
มกราคม 13, 2014 at 2:37 pm
หากความคิดเห็นของ moonriya ดังกล่าวข้างต้นสร้างความไม่สบายใจให้แก่ครอบครัวน้องภูผา ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ และหากความคิดเห็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ blog ดี ๆ ของน้องภูผา รบกวนครอบครัวน้องภูผาสามารถ remove ได้เลยนะคะ อย่างไรก็ตาม moonriya ก็จะยังเป็น FC น้องภูผาต่อไปเรื่อย ๆ ขอบคุณค่ะ
mpksmile
มกราคม 13, 2014 at 3:40 pm
ไม่เป็นไรครับคุณ moonriya ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ร่วมกันแล้วกันนะครับ
moonriya
มกราคม 14, 2014 at 5:04 am
ขอบคุณค่ะ
saisunee
พฤษภาคม 14, 2014 at 2:23 am
รบกวนสอบถามหน่อยนะคะ น้องภูผาฟันขึ้นตอนกี่เดือนค่ะ พอดีน้องก็เป็นเพดานโหว่ตอนนี้ 9 เดือนแล้ว ฟันยังไม่ขึ้นเลยค่ะ ถามคุณหมอบอกไม่เป็นไร รอได้ถึงขวบ แต่แม่ก็เริ่มกังวล น้องมีนัดผ่าตัดเพดานช่วง 1 ขวบ 1 เดือน แม่ค่อยข้างกังวลเรื่องผ่าตัดมากค่ะ แต่อ่านเรื่องน้อภูผาแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะค่ะ ขอบคุณนะคะ
mpksmile
พฤษภาคม 14, 2014 at 3:29 am
สวัสดีครับคุณ Saisunee
ภูผาฟันขึ้นตอน 8 เดือนกว่าครับ ผมว่าเดี๋ยวอีกสักพักก็ขึ้นครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ 🙂
ตอนภูผาผ่าตัดก็เป็นกังวลบ้างเหมือนกันครับ ยังไงครอบครัวน้องภูผาเป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี น้องแข็งแรง ๆ สู้ ๆ นะครับ 😉
saisunee
พฤษภาคม 14, 2014 at 3:37 am
ขอบคุณมากค่ะ
moonriya
มิถุนายน 23, 2014 at 7:45 am
สวัสดีค่ะ ครอบครัวน้องภูผา ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ที่น้องภูผาได้พ้นช่วงวิฤตไปได้ด้วยดี ตอนนี้ moonriya กำลังจะเข้าสู่ช่วงทำใจลำบากค่ะ โดยวันพุธนี้ คุณหมอนัด Admission และ พฤ ที่ 26/6/2557 เป็นวัน Operation ค่ะ เพราะ moonriya เป็นคุณแม่ที่อ่อนแอมากกว่าลูกซะอีกค่ะ อยากเจ็บแทนลูกจริง ๆ
อยากจะเรียนถามผู้ปกครองน้องภูผาว่า น้องภูผาพักฟื้นที่ รพ. กี่วันคะ เท่าทีอ่านน่าจะ 3 วัน เพราะว่าช่วงนี้ห้องพิเศษ รู้สึกจะจองลำบากมากค่ะ เขาให้คุณแม่เช็คตอนวัน admission จึงจะทราบว่ามีห้องว่างหรือไม่ ซึ่งถ้าดูความเป็นไปได้แล้วคงลำบากมากค่ะ เพราะ moonriya ไม่อยากให้ลูกอยู่ลำพังค่ะ ถ้าหากอยู่ห้องรวมผู้ปกครองห้ามเฝ้า ต้องฝากลูกไว้กับพยาบาลเท่านั้น ซึ่งลูกสาวเป็นคนที่ติดแม่มาก ๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ครอบครัวน้องภูผามีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติมใหมคะ
ขอบคุณค่ะ
mpksmile
มิถุนายน 23, 2014 at 12:06 pm
สวัสดีครับคุณ moonriya
ทางครอบครัวน้องภูผาไม่รู้จะแนะนำยังไงเลยครับ คงต้องแล้วแต่คิวห้องว่างของทางโรงพยาบาล แต่ยังไงเราก็ภาวนาขอให้มีห้องว่างนะครับ เข้าใจเลยครับถึงตอนนั้นเราจะเป็นห่วงลูกเรากันมาก คิดว่าทางคุณหมอและพยาบาลคงหาห้องให้เราได้นะครับ ขอให้การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีนะครับ คุณ moonriya
น้องมิริน
กรกฎาคม 9, 2014 at 2:04 pm
สวัสดีคะ น้องภูพา น้องมิรินนะค่ะจำกันได้หรือเปล่าน้า….ตอนนี้น้องมิรินผ่าตัดเพดานทั้ง2ด้าน ตอน 1 ขวบ 5 เดือน อิอิ น้องมิรินเป็นหวัดทุกครั้งที่จะแอดมิดที่พรีเมียมเลื่อน 3 ครั้งไม่รู้เกิดอะไรขึ้น จึงถามน้องมิรินว่าหนูอยากผ่าตัดหรือไม่ผ่าธรรมดาหรือพรีเมี่ยม (พรีเมียมค่าใช้จ่ายประเมินสูงปี๊ด เนื่องจากผ่าตัดมือ เพดาน2ด้าน ระบายท่อน้ำในหู เลยนัดปรึกษาอาจารย์ทีาคลินิคพรีเมียมให้อาจารย์ตัดสินใจให้ว่าจะเลือกแบบไหน ตกลงอาจารย์ตัดสินใจให้ว่าผ่าตึกเก่า ธรรมดา ทางครอบครัวเราก้อกังวลเหมืินทุกครอบครัวนะคะ แต่พอมารับการบริการ มันดีมากๆๆคะขอแชร์พอดีได้ห้องพิเศษ พยาบาลน่ารัก ดูแลดีกว่าพรีเมี่ยมด้วยช้ำ อุ้ยคอมเม้นตรงๆๆซะงั้น อธิบายกลางๆก้อคือพรีเมี่ยมออกสไตร์ส่วนตัว ส่วนธรรมดาออกสไตร์ครอบครัวประมาณเนี้ยคะ น้องมิรินผ่าตัดวันที่4 กค ที่ผ่านมา ตอนนี้ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลเนื่องจากสำลักเลือดเข้าไปในหลอดลมและปอดทำให้หายใจได้ไม่ดี จึงเข้า icu แม่ร้องไห้โห เครียดมากๆเพราะ แต่ปาฏิหารณ์ น้องมิรินหายใจดีขึ้นภายใน 1 วันทั้งๆ อาจารย์บอกว่าอาจต้อง2-3 วันค่อยถอดท่อหายใจ อาการดีเรื่อยๆ แต่ต้องรอฉีดยาฆ่าเชื้อให้ครบ 7 วันก่อนเพราะใส่ท่อ วันนี้แค่นี้ก่อนคะลูกตื่น ครอบครัวไหนสงสัยอะไรไลน์มาถามได้นะคะ id. Line papadoglink
mpksmile
กรกฎาคม 9, 2014 at 2:20 pm
สวัสดีครับคุณแม่น้องมิริน จำได้ครับ คุยกันตั้งแต่ตอนที่เริ่มเขียนบล๊อคนี้ใหม่ ๆ นี่ผ่านมาปีกว่าแล้วเร็วเหมือนกันนะครับ
ขอบคุณมาก ๆ เลยนะครับที่เข้ามาเขียนคอมเมนต์ที่เป็นประโยชน์กับครอบครัวอื่น ๆ ในส่วนของคลินิกธรรมดาและยังให้ไลน์ในการติดต่อไว้ด้วย
ยังไงขอให้น้องมิรินหายเร็ว ๆ นะครับ ^__^
moonriya
กรกฎาคม 10, 2014 at 3:51 am
สวัสดีค่ะครอบครัวน้องภูผา ขออนุญาต update นะคะ ตอนนี้ลูกสาว moonriya ผ่าตัดเพดานไปได้ด้วยดีไม่มีอะไรติดขัดค่ะ น้องก็งอแงตามประสาเด็กหลังผ่าตัดค่ะ วันนี้ครบ 2 อาทิตย์แล้ว น้องก็กินอาหารได้ดีค่ะ เป็นอาหารเหลวซึ่งคุณหมอแนะนำว่าควรจะเป็นนม แต่เนื่องจากว่านมนั้นย่อยง่ายและทำให้เด็กหิวง่ายงอแงบ่อย ทำให้คุณยายเหนื่อย ดังนั้นพอไปพบคุณหมอตามนัดหลังผ่าตัดเมื่อวันที่ 8-7-2557 แล้ว moonriya ก็เลยให้น้องลองเป็นน้ำข้าวต้มหมูข้นผสมนมกินผ่านไซริงค์ และช่วงกลางวันก็ให้กินเป็นซีรีแล็คผสมนมและน้ำร้อนแบบข้นนิดหน่อยผ่านไซริงค์เช่นกันค่ะ ระหว่างมื้อก็เป็นนม น้ำหวาน น้ำส้ม ยาคูลค์ ค่ะ ก็ช่วยได้เยอะ เด็กอารมณ์ดีขึ้น เล่นมากขึ้นค่ะ แต่ตัวเล็กตอนนี้น้ำหนักแค่ 8.5 กก. เองค่ะ ขณะที่อายุก็ 1.2 ปีกว่า ๆ แล้ว แถมยังไม่เดินด้วยค่ะทำได้เพียงจับไม้หรือผนังบ้านยืน-เดิน และพยายามจะยืนด้วยตัวเองบ้างแต่ยังทำไม่ได้ค่ะ ก็เลยเป็นอีกความกังวลนึงด้านพัฒนาการของลูก ไม่ทราบว่าน้องภูผาเริ่มหัดเดินตอนอายุกี่เดือนค่ะ เห็นลูกของเพื่อน ๆ เข้าเร่ิมหัดเดินตอน 9 เดือน อายุประมาณนี้ก็วิ่งได้แล้วค่ะ ทางคุณหมอศัลฯ ก็เลยส่งตัวไปแผนกพัฒนาการเด็ก และมีนัดวันที่ 1-9-2557 นี้ค่ะถึงแม้จะคิวยาวหน่อยก็จะอดใจรอและหวังว่ากว่าจะถึงวันนัดน้องจะเดินได้แล้วค่ะ แต่คุณหมอบอกว่าพัฒนาการเด็กไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับอาการปากแหว่งเพดานโหว่ แถมเด็กยังเก่งอีกด้วยค่ะ โดยคุณหมอบอกว่า มีนักศึกษาแพทย์ หรือหมอหลาย ๆ ท่านก็เคยเป็นแบบน้องค่ะ
ไม่ทราบว่าครอบครัวน้องภูผามีเรื่องอาหารหรือด้านอื่น ๆ แนะนำเพิ่มเติมอีกใหมคะ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณบทความดี ๆ ของน้องภูผาที่ทำให้ moonriya และครอบครัวสามารถนำไปใช้ในการเตรียมตัวเตรียมใจรับกับสิ่งที่ต้องเจอ ณ วันเข้าห้องผ่าตัดนะคะ มันช่วยได้เยอะมากจริง ๆ ลดความเครียด ความกลัว ลงเยอะมากค่ะ
mpksmile
กรกฎาคม 14, 2014 at 1:14 am
สวัสดีครับคุณ moonriya ดีใจที่ได้ยินเรื่องราว update ของลูกสาวคุณ moonriya นะครับ เรื่องของอาหารตอนนั้นภูผาก็กินเป็นอาหารเหลว ๆ เหมือนกันครับ แล้วก็เริ่มเป็นข้าวข้น ๆ หรือพวกอาหารบดเหมือนช่วงหัดกินแรก ๆ กินผลไม้บดได้ครับ แต่งดอาหารแข็ง ๆ เหมือนคุณหมอบอก เรื่องน้ำหนักนี่เท่า ๆ กับน้องภูผาตอนนั้นเลยครับ เพราะว่าภูผาเป็นเด็กค่อนข้างผอมเหมือนพ่อ แม่เขาก็พยายามให้กินเยอะ จริง ๆ เหมือนจะเยอะกว่าเด็กอื่น ๆ แถวบ้านแต่น้ำหนักก็ขึ้นได้น้อย น่าจะเพราะระบบเผาผลาญดี
ส่วนเรื่องพัฒนาการทางด้านการเดิน จำได้ว่าตอนภูผาผ่าตัดถ้าเห็นในรูป ภูผายังเดินเองไม่ได้นะครับ ยังต้องมีคนพยุงหรือจับเอาไว้ เริ่มไม่ต้องมีคนจับก็ประมาณ ขวบสองเดือน แต่ว่าน้องแถวบ้าน มีคนนึงเดินได้ ตอนจะขวบครึ่งแล้วก็มีนะครับ ยังไงมา update ตอนที่น้องเขาเดินได้ให้ฟังอีกนะครับ
moonriya
กรกฎาคม 14, 2014 at 3:12 am
ขอขอบคุณคุณพ่อน้องภูผานะคะ ทำให้ moonriya สบายใจขึ้นได้ทั้งสองคำตอบเลยค่ะ ไว้ moonriya จะ update เรื่องพัฒนาการน้องหลังจากไปพบแพทย์ด้านพัฒนการเด็กในวันที่ 1-9-2557 อีกครั้งนะคะ แผนกพัฒนาการเด็ก อยู่ตึกสิริกิตต์ ชั้น 3 ห้อง 303 ค่ะ
Nattayaom
ตุลาคม 1, 2014 at 11:34 am
สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ น้องภูผา
ดิฉันเองก็มีลูกเป็นโรค ปากแหว่ง เพดานโหว่เหมือนกันค่ะ คุณหมอซาวด์เจอตอน 8 เดือน ตอนนี้ใกล้คลอดแล้ว^^ ตอนแรกก็เป็นกังวลเหมือนกัน แต่พอได้มาอ่าน blog น้องภูผา รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมากเลยค่ะ น้องน่ารักมาก
ขอรบกวนสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายได้มั้ยคะ ในการรักษาแต่ละครั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คะ
mpksmile
ตุลาคม 1, 2014 at 11:37 am
ขออนุญาต ตอบทางอีเมลล์นะครับ
ธัญจิรา มังกรกิม
กันยายน 9, 2017 at 6:22 am
พี่ค่ะ ขอสอบถามหน่อยค่ะ พอดีลูกหนูเป็นดพดานโว่อย่างเดียวอยากรู้ว่าจะเย็บได้ตอนอายุเท่าไหร่แล้วเสียค่าใช้จ่ายยังไงค่ะ เงินหนูก็ไม่ค่อยมี
mpksmile
กันยายน 10, 2017 at 1:17 pm
เพดาน ภูผาเย็บตอนอายุ 1 ปีครับ ค่าใช้จ่ายของน้องภูผาตอนนั้นเป็นราคาของพรีเมียมคลินิกครับ แต่จริง ๆ แล้วก็มีโครงการที่รักษาฟรีเหมือนกันนะครับ หลาย ๆ ที่ เช่น operationsmile หรือเป็นคลินิคธรรมดาของโรงเรียนแพทย์ หรือโรงพยาบาลศูนย์ก็ไม่น่าจะแพงมากนะครับ
อัจจิมา
ธันวาคม 5, 2014 at 4:36 am
สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่น้องภูผา ดีจัยด้วยน่ะค่ะที่น้องหายดีแล้ว น้องเก่งมากเลยค่ะสู้สุดๆเลย
ดิฉันก็มีลูกเป็นปากแหว่งเพดานโหว่เหมือนกันค่ะ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการผ่าตัดเพดานครั้งที่ 2 ค่ะ
เพิ่งจะผ่าปัยเมื่อวันที่ 28ที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ยังไท่หายดีเท่าไรค่ะ อยากจะรบกวนถามคุณพ่อคุณแม่น้องหน่อยค่ะ ว่าช่วงตอนน้องผ่าเพดานจะมีเพดานทั้งแผ่นหลุดออกมามั้ยค่ะ เป็นเนื้อเพดานเลยค่ะทั้งชิ้นเลยสอบถามคุณหมอไปแล้วคุณหมอบอกแค่เพียงว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวลิ้นเด็กจะดันเข้าไปเอง แต่มันหลุดมาทั้งแผ่นเลยค่ะชิ้นเนื้อของเพดานจะประมาณเท่าลิ้นเด็กค่ะ ตอนนี้เป็นทุกข์มากค่ะ หมอบอกไม่เป็นไรก็จริงแต่ชิ้นเนื้อที่หลุดมาคือมันใหญ่มากเลยค่ะ เลยอยากรบกวนสอบถามเพื่อเป็นประสบการณ์ว่าตอนน้องภูผาผ่าเพดานน้องเป็นแบบนี้รึเปล่าค่ะ
mpksmile
ธันวาคม 5, 2014 at 5:59 am
ของน้องภูผาไม่เคยเจอแบบนั้นเลยนะครับ คุณหมอว่าไม่เป็นไรก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนะครับ แต่ถ้ายังเป็นกังวล ผมว่าไปให้คุณหมอดูอีกครั้งก็ดีนะครับ แล้วเวลากินนมหรืออาหารแล้วยังออกจมูกอยู่รึเปล่าครับ ไม่รู้จะช่วยยังไงเลย ยังไงถ้ามีความคืบหน้ามาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
นิด
กุมภาพันธ์ 22, 2015 at 12:40 pm
สวัสดีค่ะ คุณพ่อน้องภูผา
หลังจากคลอดลูก คุณหมอแจ้งว่สลูกเป็นเพดานโหว่ วันแรกที่เกิดลูกต้องให้ออกซิเจนช่วย ดิฉันไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับเพดานโหว่ไหม ตอนน้องภูผามีอาการแบบนี้ไหมค่ะ จะส่งผลกระทบกับพัฒนาการลูกไหมค่ะ เครียด กังวลมากเลยค่ะ คุณหมอแนะนำให้รักษากับคุณหมอเฉลิมพงษ์ที่รามา ดิฉันรบกวนสอบถามคุณพ่อน้องภูผา. เรื่องค่ารักษาเพด่านโหว่ค่ะ และกรณีใช้บัตร. 30 บาท คิวจะได้ช้ากว่าเยอะไหมค่ะ กรณีน้องภูผา คุณพ่อจ่ายเงินสดหรือใช้สิทบัตรค่ะ ถ้าสอบถามมากเกินไป ต้องขอโทษด้วยค่ะ
เข้ามาอ่านเรื่องน้องภูพา เป็นกำลังใจ และความรู้ให้เยอะมากเลยค่ะ
mpksmile
กุมภาพันธ์ 22, 2015 at 11:00 pm
สวัสดีครับคุณนิด
ตอนแรกเกิดน้องภูผาไม่ได้ต้องให้ออกซิเจนอะไรนะครับ แต่คิดว่าคงไม่เกี่ยวกับพัฒนาการนะครับ ลองเข้าไปพบคุณหมอเฉลิมพงษ์ที่ศัลยกรรมตกแต่งดูนะครับ ที่ชั้น 2 ตึกพระเทพ ลองโทรไปเบอร์นี้ก่อนก็ได้ครับ 02 200 3186 ครับ ส่วนเรื่องใช้สิทธิ์บัตรทองนี่ผมก็ไม่ทร่บนะครับ ลองปรึกษาอาจารย์ดูนะครับ ของน้องภูผาเป็นคลินิกพรีเมียมครับ มีอะไรสงสัยถามเข้ามาได้เลยครับ ยินดีตอบทุกคำถามที่ตอบได้ครับ สู้ ๆ นะครับ คุณแม่นิด
nidnoy11site
กุมภาพันธ์ 23, 2015 at 5:39 am
สวัสดีค่ะคุณพ่อน้องภูผา
คลินิกพรีเมียม ค่ารักษาประมาณเท่าไหร่ค่ะ
ดิฉันอยู่ต่างจังหวัด รบกวนสอบถามต้องไปทำบัตรจองคิวพบคุณหมอก่อนไหมค่ะ หรือสามารถพาลูกไปพบที่คลินิกได้เลยค่ะ กังวล ว่าลูกจะสามารถเดินทางไกลได้ไหมค่ะ
mpksmile
กุมภาพันธ์ 23, 2015 at 6:05 am
สวัสดีครับ ค่าใช้จ่ายพรีเมียมคลินิก เดี๋ยวผมตอบกลับทางอีเมลล์แล้วกันนะครับ
แม่นู๋มิลิน
สิงหาคม 24, 2015 at 8:47 pm
สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่น้องภูผา ก่อนอื่นจะบอกว่าอ่านเรื่องการผ่าตัดแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ สงสารเด็กมาก แต่ดีที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี //น้องมิลินก็เป็นเพดานอ่อนโหว่ กำหนดผ่าตัดเดือนตุลานี้ค่ะ อ่านแล้วได้ข้อมูลดีมากเลยค่ะ เหมือนต้องทำใจให้เข้มแข็งนิดๆ ตอนกำลังผ่าตัด และหลังผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ มิลินเป็นคนร้องเสียงดังมากๆ ไม่รุว่าจะมีผลต่อแผลที่ผ่าตัดรึเปล่า แถม มิลินตรวจการได้ยินผ่านตั้งแต่แรก คุณหมอก็เลยไม่ได้นัดซ้ำอีก อยากทราบว่าเรื่องน้ำในหูของน้องภูผา คุณหมอตรวจพบเมื่อไหร่คะ ก่อนผ่าตัดหรือเปล่า กังวลจังเลยค่ะ
mpksmile
สิงหาคม 25, 2015 at 1:59 am
เป็นกำลังใจให้การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีนะครับนู๋มิลิน คิดว่าการร้องไห้ ไม่น่าจะมีผลนะครับ คุณหมอเย็บให้แข็งแรงอยู่แล้วครับ แต่ต้องระวังเรื่องการกินของแข็ง ๆ ส่วนเรื่องการได้ยิน ภูผาตรวจก่อนผ่าตัดครับ เจอว่ามีน้ำในหูเลยต้องเจาะใส่ท่อระบาย ของนู๋มิลินเป็นแค่เพดานอ่อนครับโชคดีเลยไม่มีผลกับเรื่องน้ำที่จะไปขังในหูครับ ยังไงสู้ ๆ ไม่ต้องกังวลนะครับ
แม่นู๋มิลิน
สิงหาคม 25, 2015 at 2:32 am
ขอบคุณนะคะ
แม่นู๋มิลิน
กันยายน 20, 2015 at 9:54 pm
ขอทราบค่าใช้จ่ายตอนเย็บเพดานของน้องภูผาได้รึเปล่าคะ ขอบคุณค่ะ
mpksmile
กันยายน 20, 2015 at 11:04 pm
สวัสดีครับ ตอบกลับไปทางอีเมลล์แล้วนะครับ
คุณแม่น้องไบร์ท
ตุลาคม 5, 2015 at 2:33 pm
ขอรบสอบถามคุณพ่อน้องภูผาค่ะ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดปากแหว่งและเพดานโหว่2ครั้ง ประมาณเท่าไหร่ค่ะ และค่าใช้จ่ายในการรักษาที่พรีเมียมคลินิคด้วยค่ะ รบกวนด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ
mpksmile
ตุลาคม 6, 2015 at 4:55 am
ตอบทางเมลล์แล้วครับ
แม่นู๋มิลิน
ตุลาคม 12, 2015 at 3:55 pm
ตอนน้องภูผา สรุปได้แอดมิดกี่คืนคะ เหมือนจะแค่ 2 คืน 3 วันรึเปล่า แข็งแรงจังเลย น้องมิลินนัดแอดมิดวันที่ 14 นี้แล้วค่ะ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนน้องภูผาเถิด
mpksmile
ตุลาคม 12, 2015 at 11:01 pm
ใช่ครับ แม่นู๋มิลิน ขอให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
แม่นู๋มิลิน
ตุลาคม 20, 2015 at 2:03 am
สวัสดีค่ะคุณพ่อน้องภูผา ขอสอบถามเรื่องหลังผ่าตัดหน่อยค่ะ ว่าน้องภูผาสามารถดื่มนมได้ดีมั๊ยคะ พอดีว่าน้องมิลินเพิ่งไปผ่าตัดเพดานอ่อนมาวันที่ 15 ค่ะที่รพ.มอ.หาดใหญ่ แล้วทีนี้น้องจะไม่ค่อยกินนมเลยค่ะ เพราะพอจะให้ดื่มนมก็คิดว่าเป็นยา มีวิธีหรือเทคนิคในการช่วยดื่มนมบ้างป่าวคะ พอไม่ยอมดื่มอะไร น้ำเกลือก็ถอดตั้งแต่วันที่ 17 แล้ว กลับบ้านมาวันที่ 18 ก็ยังไม่ค่อยดื่ม แม่กลัวน้องจะนน.ลงไปเยอะ นี่ก็ตัวเริ่มเบาหวิวแล้วค่ะ
ปล.น้องมิลิน อายุ 10 เดือนค่ะ มีการเจาะลิ้นดึงไหมออกมาติดไว้ข้างแก้มด้วยค่ะ แต่ว่าวันที่ 16 ก็ตัดไหมที่ลิ้นออก ดูท่าทางน้องมิลินจะกลัวคุณหมอ กลัวพยาบาลไปอีกพักนึงแน่เลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
mpksmile
ตุลาคม 20, 2015 at 3:11 am
สวัสดีครับคุณแม่นู๋มิลิน
ภูผาเริ่มกินนมได้ ตอนวันสุดท้ายที่อยู่โรงพยาบาลครับ แล้วก็กินอาหารเสริมเหลว ๆ ได้ครับ หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็กินได้ดีขึ้นนะครับ
mpksmile
ตุลาคม 20, 2015 at 3:15 am
ยังตอบไม่เสร็จเผลอกดส่งไป โทษทีครับ ไม่ทราบว่านู๋มิลินกินนมยังไงครับ แบบขวด แบบไซริงค์ หรือเป็นแก้วครับ ถ้ากินแบบไซริงค์อาจจะกลัวรึป่าวครับ หรือไม่ก็ให้ทานอาหารเสริม อาหารเหลวน่ะครับ ก็ได้นะครับ ถ้าพอมีรสชาติ น้องอาจจะทานได้มากขึ้นน่ะครับ
แม่นู๋มิลิน
ตุลาคม 20, 2015 at 5:13 am
ทานกับช้อน แล้วก็ไซริงค์ค่ะ ทานกับแก้วบ้าง แต่น้องก็ยังไม่ถนัดค่ะ ทานทีไรหกเต็มเลย หมอให้งดจุกนม เลยไม่ได้ทานกับขวดค่ะ หมอให้ทานแต่นมจนถึงวันที่ 21 นี้ค่ะ (หมอนัดหลังเย็บเพดาน) แล้วก็ให้ทานอาหารเหลวได้หลังจากนั้น สงสัยต้องลุ้นเป็นวันต่อวัน เพราะวันนี้เหมือนจะทานได้ดีขึ้นนิดนึงแล้วค่ะ
mpksmile
ตุลาคม 20, 2015 at 5:24 am
อ้อครับ ยังไง เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ ๆๆๆ ครับ
แม่นู๋มิลิน
ตุลาคม 21, 2015 at 12:38 pm
วันนี้พามิลินไปหาหมอมาค่ะ หลังเย็บเพดานได้ 1 สัปดาห์ หมอบอกว่าแผลดี และให้เริ่มทานพวกโจ๊กได้แล้ว มิลินทานเก่งขึ้นแล้วค่ะ น่าจะเป็นเพราะไม่เจ็บแผลแล้ว แต่พอเข้าพบคุณหมอปั๊บ ร้องเลย คุณหมอยังไม่ทันจับตัวเลย สงสัยจะจำได้ ฮ่าๆ แต่แม่นู๋มิลินลืมถามคุณหมอว่าสามารถกลับมาใช้ดูดนมจากขวด หรือจากหลอดได้เมื่อไหร่ คุณพ่อน้องภูผาพอจะทราบมั๊ยคะ
mpksmile
ตุลาคม 21, 2015 at 1:30 pm
เท่าที่จำได้ ภูผาช่วงนั้น ก็กลัว ๆ พยาบาล หรือคุณหมอเหมือนกันครับ เดี๋ยวสักพักคงหายครับ เรื่องกลับมาดูดนมจากขวดเนี่ย ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ว่าถ้าจากหลอดผมว่าน่าจะได้ เพราะมันไม่ไปกระทบแผลครับ
จุรีรัตน์ จันทร์ศรี
กุมภาพันธ์ 21, 2018 at 9:03 am
สวัสดีค่ะ พอดีตัวเล็กมีปัญหาเรื่องเพดานอ่อนโหว่เหมือนกันค่ะ เกิดที่ รพ มอ เมื่อวันที่ 7/2/61 เป็นกังวลมาก เลยอยากจะขอทราบค่าผ่าตัดปิดเพดานหน่อยค่ะ
mpksmile
กุมภาพันธ์ 21, 2018 at 10:28 am
เดี๋ยวผมตอบเรื่องค่าใช้จ่ายทางเมลล์นะครับ
แม่นู๋มิลิน
พฤศจิกายน 5, 2015 at 9:47 am
สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่น้องภูผา มีเรื่องรบกวนอีกรอบ คืออยากทราบว่าการเย็บเพดานใช้ไหมละลายใช่มั๊ยคะ แล้วนานมั๊ยคะกว่าไหมจะละลาย ปกติเย็บกับไหมละลายนี่เห็นไหมมั๊ยคะ ถ้ามีรูปในปากของน้องภูผาหลังเย็บเพดาน รบกวนส่งให้ดูได้มั๊ยคะ ขอบคุณค่ะ
mpksmile
พฤศจิกายน 5, 2015 at 1:30 pm
สวัสดีครับ ไม่เคยถ่ายรูปในปากไว้เลยครับ ของภูผาเป็นไหมละลายนะครับ มองเห็นอยู่นะครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเดือนเหมือนกันครับ กว่าจะหายไปหมดน่ะครับ
แม่นู๋มิลิน
พฤศจิกายน 5, 2015 at 1:40 pm
อ่อค่ะ ระบบทางรามานี่ หมอนัดดูแผลที่ทำเมื่อไหร่บ้างคะ อย่างของน้องมิลิน มอ.นัด 1 สัปดาห์หลังเย็บ แล้วอีกทีคือ 6 เดือนเลยค่ะ
แต่คุณหมอบอกว่าถ้ามีปัญหาอะไรไปก่อนได้
แต่ปัญหาของแม่นู๋มิลินแค่กังวลเรื่องไหมยังไม่เห็นจะละลายเลยค่ะ เรื่องแค่นี้เกรงว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรไป 555 #แม่นู๋มิลินเป็นคนคิดมากค่ะ
mpksmile
พฤศจิกายน 5, 2015 at 1:57 pm
ของน้องภูผา หลังผ่าตัด 3 เดือนนะครับ แล้วหลังจากนั้นก็ 1 ปีครั้งเลยครับ ไม่ต้องกังวลครับ เดี๋ยวก็หายไปเองคิดซะว่าไหมอยู่นาน ดีกว่าอยู่แป๊บเดียวแล้วหลุดครับ เพราะแผลจะได้ปิดสนิทจริง ๆ
แม่นู๋มิลิน
พฤศจิกายน 5, 2015 at 2:26 pm
ขอบคุณค่ะคุณพ่อน้องภูผา สบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ไว้มีปัญหาอะไรค่อยมาปรึกษาอีกนะคะ
แม่นู๋มิลิน
พฤศจิกายน 24, 2015 at 1:17 am
รบกวนถามคุณพ่อน้องภูผาอีกแล้วค่ะ คุณพ่อให้น้องภูผาเริ่มใช้หลอดดูดนมตั้งแต่เมื่อไหร่หลังเย็บเพดานคะ
mpksmile
พฤศจิกายน 24, 2015 at 5:44 am
หลังผ่าตัดเพดานไปแล้วสักพักครับ น้องจะเริ่มหัดดูดหลอดได้ละ ตอนนั้นจำได้ว่าหัดเป็นหลอดขวดหัดดูดก่อนครับ
Na
ธันวาคม 30, 2015 at 6:59 pm
อยากทราบคชจ.การผ่าตัดและรพ.ค่ะ
mpksmile
ธันวาคม 30, 2015 at 11:57 pm
ตอบกลับทางอีเมลล์แล้วนะครับ
Wirawat
เมษายน 26, 2016 at 8:21 am
สวัสดีครับคุณแม่น้องภูผาพอดีลูกสวยผมพึ่งผ่าตัดเพดานโหว่เลยอยากถามคุณแม่น้องภูผาหน่อยครับว่าหลังผ่าตัดให้กินซิลิแลคหรืองเหลวได้ประมาณกี่วันของวันที่ผ่าตัดสงสารลูกครับน้องน่าจะหิวแต่ไม่กล้าให้กินเพราะตอนนี้ให้กินได้แต่นมและเอาเฝือกออกจากแขนตอนไหนครับประมาณกี่วันขอบคุณครับ
mpksmile
เมษายน 27, 2016 at 4:34 am
สวัสดีครับ ถ้าจำไม่ผิดเอาเฝือกออก 7 วันหลังผ่าตัดนะครับ ส่วนอาหารเหลวหลังจากเอาเฝือกออกกินได้เลยครับ
Wirawat
เมษายน 27, 2016 at 7:12 am
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำนะครับขอให้น้องภูพาและครอบครัวมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะครับ
mpksmile
เมษายน 28, 2016 at 6:06 am
ขอบคุณมากครับ ขอให้น้องสวยแข็งแรง ๆ นะครับ สู้ ๆ ครับ มีอะไรก็เขียนมาคุยกันได้ครับ
Phung
กรกฎาคม 21, 2016 at 7:28 am
สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่น้องภูผา ตอนนี้น้องคงโตเป็นหนุ่มน้อยแล้ว. พอดีมาอ่านเจอบทความของน้องค่ะมีประโยชน์มากเลย. ลูกสาวก็เป็นปากแหว่งเพดานโหว่เหมือนกันค่ะพึ่งจะคลอดได้7วัน จะพาไปรักษาที่รามาเหมือนกัน รบกวนสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายหน่อยค่ะ 😄
mpksmile
กรกฎาคม 21, 2016 at 7:51 am
เดี๋ยวผมตอบกลับทางเมลล์นะครับ
กอล์ฟ
กันยายน 28, 2016 at 5:51 am
อาการเดียวกับลูกผมเลยคับ เพิ่งคลอดได้15วัน
ตอนนี้น้องภูผาเป็นไงมั่งคับอยากไห้อับเดตรูปน้องอีกจัง
mpksmile
กันยายน 28, 2016 at 5:56 am
น้องภูผา แข็งแรง พูดเก่ง เลยครับช่วงนี้ แต่ก็ยังไปพบคุณหมออยู่เรื่อย ๆ ตามนัดนะครับ ส่วนรูปขอโทษทีนะครับ คงไม่ได้อัพเดทให้ดูแล้วครับ
กอล์ฟ
กันยายน 28, 2016 at 7:41 am
น้องภูผาเก่งจัง
ขอบคุนมากนะคับ
Tul
ตุลาคม 31, 2016 at 2:21 pm
รบกวนตอบกลับเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดของน้องได้ไหมคะ
mpksmile
พฤศจิกายน 1, 2016 at 12:12 am
ส่งไปให้ทางอีเมลล์แล้วครับ
มินตรา เทพสาง
กุมภาพันธ์ 7, 2018 at 2:09 pm
ลูกชายเพิ่งผ่าตัดเมื่อวันที่2กพ.ที่ผ่านมานี่เอาค่ะ น้องเป็นเพดานโหว่อย่างเดียว ตอนอยู่ รพ. พยาบาลบอกน้องเก่งนะคะ ไม่ค่อยร้องเลย นอน รพ.3คืนหลังผ่าตัดก็ออกรพ.ได้แล้ว แต่พอกลับบ้านร้องเยอะหน่อย แม่แอบมองแผลผ่าตัด สังเกตุเห็นเหมือนรอยแผลจะปริเลยค่ะ น้องจะโดนป่าอีกมั้ยคะ กลัวมาก สงสารลูก แม่เองก็ทุกข์ใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยตั้งแต่วันแรกที่ผ่า อยากรู้มากค่ะเพราะกว่าจะรู้ผลว่แผลเป็นยังไงจากปากหมอก็วันที่22กพ. หมอไม่อยู่ เลยได้รู้ผลช้าค่ะ เพดานน้องที่ผ่า ขนาดไม่ใหญ่นะคะ แค่ช่วงปลายข้อนิ้งก้อยของผู้ใหญ่อย่างเรานี่เอง ช่วยตอบให้หายสงสัยทีนะคะ ไม่สบายใจมากค่ะ
mpksmile
กุมภาพันธ์ 7, 2018 at 2:24 pm
อย่ากังวลไปก่อนเลยครับ แผลไม่ใหญ่ ผมว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ และเหมือนเคยได้ยินว่า ถ้าเป็นช่องเล็ก ๆ ที่รั่วเดี๋ยวมันจะปิดเองได้ครับ ทำใจสบาย ๆ ครับ ลองสังเกตเองก็ได้ครับ ว่ากินนมหรือกินข้าวแล้วยังออกจมูกอีกไหมครับ ถ้าไม่ออกก็สบายใจได้ครับ ว่าน่าจะไม่รั่ว แล้วเดี๋ยวให้หมอดูอีกทีวันที่นัดครับ ทำใจให้สบายครับ ไม่ต้องกังวล เป็นกำลังใจให้ครับ
จุรีรัตน์ จันทร์ศรี
กุมภาพันธ์ 21, 2018 at 9:11 am
ตอนนี้เรื่องการพูดของน้องภูผาเป็นอย่างไรบ้างคะ ต้องฝึกอะไรเป็นพิเศษรึป่าว พอดีตัวเล็กที่บ้านเพิ่งเกิดเมื่อวันที่7 กพ ที่ผ่านมา ตรวจพบเป็นเพดานอ่อนโหว่จนไปถึงไม่มีลิ้นไก่ คุณแม่กังวลเรื่องการพูดของน้องในตอนโตมาก ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำอะไรไม่ได้เพราะน้องยังเล็ก ต้องรอไปตามหมอนัด ขอทราบค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดหน่อยค่ะ
mpksmile
กุมภาพันธ์ 21, 2018 at 10:30 am
เรื่องการพูด น้องพูดชัดดีครับ ไปหาหมอฝึกพูดตามที่คุณหมอแนะนำเป็นประจำ ไม่มีปัญหาเรื่องการพูดเลยครับ ตั้งแต่ตอนแรก
Ong
มิถุนายน 4, 2018 at 9:06 am
อยากทราบค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเพดานค่ะ ขอทราบโรงพยาบาลด้วยค่ะ เพราะตอนนี้ได้ตรวจที่ศริราช ใช้ บัตร 30 กลัวโดนเลื่อนค่ะ อยากผ่าตัดก่อนหัดพูดค่ะ เลยอยากขอข้อมูลไว้ก่อน
mpksmile
มิถุนายน 4, 2018 at 9:09 am
สวัสดีครับ ของร้องผ่าตัดที่รามาพริเมียมคลินิคครับ ค่าใช้จ่าย เดี๋ยวแจ้งทางเมลล์นะครับ
นิรันดร์
กรกฎาคม 15, 2018 at 2:30 pm
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ครับ เป็นความรู้ให้ผมได้มากเลยครับ
mpksmile
กรกฎาคม 15, 2018 at 2:32 pm
ยินดีครับ ดีใจที่เป็นประโยชน์ครับ มีอะไรสอบถามได้ครับ สู้ ๆ ครับ
Nam
ธันวาคม 22, 2018 at 3:08 am
คุณพ่อคะ รบกวนขอค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดหน่อยค่ะ
mpksmile
ธันวาคม 22, 2018 at 12:54 pm
ตอบกลับทางเมลล์แล้วครับ
อินทุกร
พฤษภาคม 15, 2019 at 2:01 am
สวัสดีคะ. คุณพ่อ คุณแม่ น้องภูผา
ดิฉันได้อ่านเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆของน้องภูผาแล้วมีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลยคะ ลูกชายของดิฉันเป็น เพดานโหว่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดคะ 😢😢 ตอนนี้น้องเพิ่งจะได้ 25 วันคะ อยากถามคุณพ่อหน่อยคะ น้องภูผาผ่าตัดเพดานตอนอายุกี่ขวบคะ เวลากินนมน้องภูผามีสำลักบ้างมั้ยคะ ไม่ทราบว่าคุณพ่อคุณแม่ทำยังงัยคะ
ปล. ลูกชายของดิฉันก็ชื่อ ภูผา เหมือนคะ 😊😊
mpksmile
พฤษภาคม 15, 2019 at 2:09 am
สวัสดีครับ ดีใจที่บล๊อคนี้เป็นกำลังใจให้ได้นะครับ น้องภูผาผ่าตัดเย็บเพดานตอน 1 ขวบครับ ช่วงก่อนผ่าตัดนี้เขาจะมีใส่เพดานเทียมครับ เวลากินนมจะสำลักน้อยลง แต่ก็ยังมีนะครับ ทำใจครับ พยายามช่วยทำความสะอาดบริเวณภายนอกที่เราทำได้ก็พอครับ ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ไหนครับ ลองไปพบคุณหมอฟัน เพื่อทำเพดานเทียมนะครับ
Boom Akkharakit Wongthong
พฤศจิกายน 5, 2019 at 10:02 am
สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่ น้อง ภูผ่า
ผมได้อ่านเรื่องราวของและประสบการณ์ของน้องภูผาแล้วมีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลย ลูกผมก็เช่นเดียวกันเพดานอ่อนโหว่ตั้งแต่แรกเกิดหมอบอกนิดนึ่ง ตอนนี้อายุหนึ่งเดือนเศษแล้ว อยากทราบโรงพยาบาลที่รักษา และเบอร์โทรติดต่อ รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆในการรักษาด้วยครับ Mail:boomcare_gitar@hotmail.com ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลนะครับ หวังว่าลูกชายผมจะพูดชัดได้เหมือนพี่ภูผาครับหลังจากผ่าตัดแล้ว
mpksmile
พฤศจิกายน 5, 2019 at 11:38 am
สวัสดีครับ ดีใจที่ทำให้มีกำลังใจขึ้นนะครับ เดี๋ยวรายละเอียดส่งไปให้ในเมลล์นะครับ
กานดา กุลโสภณ
ธันวาคม 18, 2020 at 2:22 am
อยากปรึกษาค่ะ ลูกชาย ก็เป็นเพดานโหว่ เลยอย่างปรึกษา
mpksmile
ธันวาคม 18, 2020 at 7:18 am
ครับผม ส่งตอบกลับทางเมลล์ไปแล้วครับ
Renoo
มกราคม 23, 2023 at 2:57 pm
รบกวนสอบถามครอบครัวน้องภูผา พอดีพึ่งเปิดมาเจอค่ะ ลูกสาวเป็นเพดานโหว่และมีการผ่าตัดเย็บเพดานเรียบร้อยแล้ว พอดีอยากจะทราบว่า หลังจาก สัปดาห์ ที่คุณหมอให้งด อม ดูด เป่า โดยการให้นมกับให้อาหารเหลวทางสลิ้งค์ พอครบระยะเวลาที่กำหนดเราสามารถให้น้องดูดนม จากขวดได้ปกติเลยไหมคะ
mpksmile
มกราคม 24, 2023 at 1:21 am
สามารถดูดจากขวดได้เหมือนเดิมครับ