แม่เริ่มให้ภูผากินอาหารเสริมแล้วนะ ตั้งแต่ภูผา 4 เดือน จริง ๆ แล้วในหนังสือบอกว่าให้เริ่มตอนอายุ 6 เดือน เดือนนี้แม่ตั้งใจให้ภูผากินอาหารเสริมและหัดกินน้ำเปล่า เพราะตอนแรก ๆ แม่ไม่ค่อยให้ภูผากินน้ำเปล่าเลย กินนมแม่อย่างเดียวเพราะคิดว่าในน้ำนมแม่ส่วนใหญ่ก็เป็นน้ำอยู่แล้ว ภูผาก็เลยไม่ค่อยได้กินน้ำเปล่า และภูผาก็เลยเหมือนกินน้ำไม่เป็น ก็เลยต้องหัดให้กินน้ำเปล่า เพราะว่ากินน้ำผลไม้หรืออาหารเสริมก็น่าจะต้องกินน้ำเปล่าตามเพื่อล้างคอ
เหตุผลที่แม่เริ่มให้อย่างอื่นเสริมจากนมแล้วเพราะว่าช่วงนี้ภูผากินนมเยอะขึ้น 25-30 ออนซ์ แต่น้ำหนักภูผาก็ยังไม่ขึ้นเท่าไร จึงคิดว่าภูผาน่าจะพร้อมให้อาหารเสริมได้แล้วหล่ะ
แม่เริ่มให้กินน้ำส้มก่อน (3 มกราคม 56) เพราะว่าแม่อ่านในสารานุกรมของหมอชาวบ้าน แล้วเห็นเขาบอกว่าจริง ๆ ให้กินน้ำส้มได้ต้้งแต่ 1-2 เดือนก็กินได้ ก็ให้น้ำส้มเจือจางด้วยอัตราส่วน 1:1 และภูผาตอบรับเป็นอย่างดี และชอบกินเหมือนอยากจะกินอีกโดยแม่ให้กินน้ำส้มตั้งแต่ 4 เดือน และในวันถัดมาก็ให้ 2 ออนซ์ในอัตราผสมเท่าเดิม ภูผาก็กินได้ดี 3 วันหลังจากนั้นแม่ก็เลยให้แบบไม่ต้องเจือจาง 1 ออนซ์ในวันแรก ๆ และหลังจากนั้น 2 ออนซ์ หลังจากนั้นแม่ก็เลยให้กินน้ำแอปเปิ้ลแบบไม่เจือจาง 2 อาทิตย์และภูผาก็ชอบกินมากเลย น้ำองุ่นก็เคยให้กินนะก็โอเคเลย
แม่เคยให้กินน้ำกีวี แต่ภูผาส่ายหัวและไม่ยอมกินเลย น่าจะเป็นเพราะว่ามันเปรี้ยว แม่ก็เลยไม่ได้ทำน้ำกีวีให้กินอีกเลย…
เริ่มป้อนอาหารให้ภูผาก็เพราะว่าอยากให้ภูผาได้รู้จักรสชาติอาหารอย่างอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ ทำความคุ้นเคยเอาไว้ก่อน
ต่อมาอาหารอย่างแรกที่ทดลองให้ภูผากินก็คือฟักทองนึ่งบดและใส่น้ำนมแม่ (20 มค 56) เป็นการป้อนให้ภูผากินครั้งแรกทั้งหมด 1 ช้อนโต๊ะ และปรากฎว่ามันออกมาหมดเลย เหมือนไม่ค่อยได้กินเข้าไปและเลอะเทอะไปหมดทั้งผ้ากั้นเปื้อนและเสื้อภูผา แต่ว่าวันรุ่งขึ้นให้ยายลองป้อนปรากฎว่าภูผากินหมดเลย แล้วก็ไม่เลอะด้วย ยายน่าจะป้อนได้เก่งกว่าแม่ เรื่องนี้ต้องยกให้ยายเป็นที่หนึ่งเลย
แม่ทำน้ำผักให้ภูผากินด้วยเหมือนกันนะ ผสมพวกแครอท บล๊อคโคลี่แล้วก็ต้มทำเป็นน้ำผัก
หลังจากนั้นแม่ก็ให้กินข้าวตุ๋นบด 1 ช้อนโต๊ะ เป็นข้าวที่ผสมหลาย ๆ ชนิดแบบที่มีจมูกข้าว ภูผาก็กินได้ดีเลยนะ เวลาภูผาอึก็เห็นเหมือนเป็นเศษข้าวออกมาด้วย
ถ้าภูผาครบ 5 เดือน แม่ก็จะเริ่มหัดให้ภูผากินครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ และจะให้น้ำผลไม้เพิ่มเป็น 3 ออนซ์ต่อวัน แล้วแม่ก็จะเริ่มให้ภูผากินไข่ต้มแล้วนะเฉพาะไข่แดงประมาณ 1/4 ของไข่แดง 1 ลูก แล้วก็จะให้ผักต้มบด1/2 ช้อนโต๊ะแล้วหล่ะ ผลเป็นยังไงจะมาเล่าให้ฟังทีหลังนะ
thoo
กรกฎาคม 30, 2013 at 5:47 pm
หลังผ่าริมฝีปากแล้วยังไม่เย็บเพดาน ระหว่างนี้ต้องใส่อุปกรณ์เช่นพวกเพดานเทียมอยู่รึเปล่าคะ แล้วน้องทานนมใช้ขวดอะไรคะหลังผ่า
mpksmile
กรกฎาคม 30, 2013 at 11:19 pm
คุณ thoo, หลังผ่าตัดริมฝีปากใหม่ ๆ จะป้อนนมโดยใช้ไซลิงค์หรือขวดนมพิเศษครับ แต่ถ้าแผลหายคุณหมออนุญาตให้ถอดเฝือก จะประมาณ 7 วันหลังผ่าตัด ก็สามารถกินนมจากขวดได้ตามปกติครับ โดยเพดานเทียมหลังจากผ่าตัดก็ไม่ต้องใส่แล้วครับ
พัณณ์ชิตา
เมษายน 23, 2018 at 2:59 am
ทำไมเย็บปากแล้วไม่ต้องใส่เพดานเทียมค่ะ เวลาเค้ากินไม่สำลักเหรอค่ะ
mpksmile
เมษายน 23, 2018 at 3:08 am
ไม่ได้ใส่แล้วครับ หลังเย็บปาก มีสำลักบ้างครับไม่มาก แต่จะมีอาหารออกจมูกเป็นปกติครับ เพราะว่ายังมีช่องที่เพดาน
thoo
กรกฎาคม 31, 2013 at 3:23 am
ลูกสาวเป็น 2 ข้างแบบสมบูรณ์ รู้ตอนท้อง ตอนนั้นตกใจมาก ร้องไห้ตลอด แล้วพอเริ่มหาข้อมูลก็หายากมาก ดีที่มาเจอเรื่องของน้องภูผา ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ ทำให้มีกำลังใจและเข้าใจเรื่องราวมากขึ้นว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง เคยคิดจะขอเบอร์โทรไปหาคุณพ่อ&แม่น้องเลยนะคะ เพื่อปรึกษาแต่พอดียังไม่คลอด ก็เลยตามเรื่องมาเรื่อยๆ ลุ้นไปด้วยตลอด ตอนนี้คลอดน้องแล้วได้ 3 เดือนครึ่งแล้วค่ะ กลับไปเริ่มอ่านใหม่ตอนแรกๆแล้วก็แอบยิ้มไปด้วยเพราะเจออะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน&ไปหาหมอท่านเดียวกัน(ทำตามเลยค่ะ อิอิ) แต่หมอบอกคงผ่าตอน 6 เดือน ระหว่างนี้ก็อ่านเรื่องรอว่าต่อไปเราต้องทำอะไรอีก&เจออะไรบ้าง ขอบคุณจริงๆค่ะสำหรับครอบครัว MPK ที่มาบอกเล่าประสบการณ์ เป็นกำลังให้ครอบครัวน้องภูผาและดิฉันเองนะคะ สู้ๆๆ ปล.รบกวนอยากทราบค่าใช้จ่ายตอนผ่าด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
mpksmile
กรกฎาคม 31, 2013 at 6:34 am
ขอบคุณมากครับสำหรับกำลังใจดีดีให้กับน้องภูผาและครอบครัว MPK นะครับ เราก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณ thoo และน้องด้วยเหมือนกันนะครับ แป๊บเดียวก็ผ่านไปแล้วครับ ผ่าตัดริมฝีปากเสร็จแล้วอะไร ๆ จะดีขึ้นเยอะเลยครับ ดีใจมากครับที่เวป MPKSMILE เป็นประโยชน์สำหรับคุณ thoo นะครับ ตอนแรก ๆ เราก็หาข้อมูลในอินเตอร์เนตเยอะมากเหมือนกัน ซึ่งก็หายาก เราจึงตัดสินใจทำบล๊อกนี้ขึ้นมาเพื่อแชร์ประสบการณ์ที่เราได้เจอ และรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวจะตอบกลับทางอีเมลล์นะครับ ยิ้มสู้ไปด้วยกันครัับ 🙂
Angkana
พฤษภาคม 8, 2016 at 12:01 pm
ขอบพระคุณสำหรับเรื่องราวของน้องภูผาที่เป็นแรงใจสำคัญให้ดิฉัน ลูกสาวของดิฉันเป็นแบบเดีนวกับน้องภูผา แต่ทราบตั้งแต่ในท้องตอน 6 เดือน ทำให้มีเวลาตั้งตัว และเตรียมทุกอย่างไว้ให้ลูกให้ได้มากที่สุด และดีที่สุด
mpksmile
พฤษภาคม 8, 2016 at 12:15 pm
ดีใจมากครับ ที่บล๊อกของเราเป็นแรงใจให้กับคุณ Angkana นะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ ๆ ครับ ถ้ามีอะไรสอบถามได้นะครับ
kritsana
พฤษภาคม 26, 2016 at 3:46 am
ต้องขอขอบพระคุณบล๊อกของน้องภูผามากๆ ค่ะ ลูกชายเป็นเหมือนน้องภูผา ทราบตั้งแต่อยู่ในท้อง 5 เดือน ได้บล๊อกของน้องภูผาเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีมากๆ ทำให้รู้แนวทางในการเลี้ยงน้องต่อไป แต่ตอนนี้มีความกังวลเรื่องอาหารเสริมค่ะ เลยอยากรบกวนสอบถามข้อมูลนิดนึงค่ะ ลูกชายตอนนี้ 9 เดือนกว่าแล้ว ทานข้าว 2 มื้อ แต่ยังคงเป็นแบบปั่นละเอียดอยู่ ไม่ทราบตอนน้องภูผา 9 เดือน คุณพ่อคุณแม่ให้ทานอาหารแบบหยาบได้หรือยังคะ กังวลว่าถ้าไม่เริ่มอาหารหยาบ น้องจะเคี้ยวอาหารไม่เป็น แต่ก็กลัวว่าถ้าให้แบบหยาบๆ น้องจะสำลักค่ะ
(ฟันน้องกำลังเริ่มขึ้นมาแค่ 1 ซี่ล่างค่ะ) ขอบคุณล่วงหน้านะคะ